“คปภ.” จ่อเพิกถอนใบอนุญาต “สินมั่นคงประกันภัย”  

เลขาคปภ.สั่งสินมั่นคงเติมเงินกองทุนให้ครบตามกฏหมายกำหนด  ชี้หากไม่สามารถแก้ไขได้ต้องเสนอบอร์ดคปภ. เพิกถอนใบอนุญาตทันที่ ขณะที่บริษัทฯ แจ้งตลาดรับทราบคำสั่ง คปภ. ให้หยุดรับประกันภัยเป็นการชั่วคราว ห้ามสั่งจ่ายเงิน-เคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เว้นแต่จ่ายเงินเดือน-ค่าจ้างตามปกติ

นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า กรณี คปภ. มีคำสั่งให้บริษัทสินมั่นคงประกันภัย หยุดรับประกันภัยชั่วคราวและปิดระบบทุกอย่าง ขณะนี้ เร่งให้ดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อดูแลทุกฝ่าย โดยให้ฝ่ายบริหารสินมั่งคง เดินหน้าแก้ปัญหาทั้งเติมทุนและด้านต่าง ๆ โดยต้องดำรงเงินกองทุนให้ครบถ้วนตามกฎหมาย เพราะกองทุนติดลบหลายร้อยล้านบาท จึงต้องหาเงินทุนมาวางให้ครบถ้วน พร้อมชำระค่าปรับ หากทำไม่ได้ต้องเสนอบอร์ด คปภ. พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาติทันที  

“ ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้ปิดกิจการ ต้องรับเคลมจากลูกค้า เมื่อเกิดเหตุนำรถเข้าไปซ่อมในอู่เครือข่าย ตามสภาพบังคับของกรมธรรม์ จึงให้เปิดเคลมดูแลลูกค้าตามปกติ ถึงมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก เพราะขาดสภาพคล่อง “

อย่างไรก็ตาม ยอดกรมธรรม์มีผลบังคับอยู่ 1.8 ล้านราย คปภ. เน้นดูแลลูกค้าเป็นหลัก หากมีปัญหาการซ่อมสามารถร้องเรียนมาที่ คปภ.ได้ทันที  ซึ่งยอมรับหลายอู่เริ่มไม่รับซ่อมให้ลูกค้า สินมั่งคง  

ส่วนกรณีกองทุนประกันวินาศภัย ต้องแบกภาระหนี้จนติดลบ เพราะเจอปัญหา 4 บริษัทประกันต้องปิดกิจการ หลังเจอผู้เอาประกันยื่นเคลม “เจอ จ่าย จบ” ในช่วงโควิด-19 จาก บมจ. เอเชียประกันภัย 1950 , บมจ.เดอะ วัน , บมจ.อาคเนย์ประกันภัย , บมจ.ไทยประกันภัย และถ้ารวมบมจ.สินมั่นอีกรายจะกระทบต่อเงินกองทุนประกันวินาศภัยประมาณ  5 หมื่นล้านบาท

ขณะนี้ได้ตั้งอนุกรรมการฯ ร่วมกับหลายหน่วยงาน ร่วมกันศึกษาดูแลสภาพคล่องของกองทุนประกันวินาศภัย ด้วยการระดมทุนผ่านหลายช่องทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับทุกฝ่าย แต่อยู่ระหว่างดำเนินการยังได้ข้อสรุป 

สำหรับธุรกิจประกันในปี 66 จะเติบโตร้อยละ 4-5 จากปี 65 ขยายตัวร้อยละ 0.9 นับว่าปีนี้เติบโตน่าพอใจ แต่ในปี 67 หวังจะให้ขยายตัวใกล้เคียงกับจีดีพีของประเทศ คปภ. ยังได้เตรียมพร้อมให้บริษัทประกัน ปรับตัวรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่องสัญญาประกันภัย (TFRS 17) ฉบับการแก้ไขเพิ่มเติม จะมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2567 โดยต้องเปิดเผยงบการเงินที่เปลี่ยนแปลงให้ประชาชนรับทราบ การร่วมมือกับธุรกิจประกันพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการดูแลกรมธรรม์รถยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า  บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK ได้รับคำสั่งนายทะเบียนที่ 48/2566 ลงวันที่ 15 ธ.ค.66 ในวันที่ 16 ธ.ค.66 เวลา 19.35 น. สั่งให้บริษัทหยุครับประกันภัยเป็นการชั่วคราว ซึ่งระบุเหตุผล

โดยสรุปว่า เนื่องจากบริษัทมีฐานะและการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน โดยอ้างอิงข้อเท็จจริงว่า บริษัทไม่สามารถดำรงเงินกองทุนให้เป็นไปตามประกาศที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการกำกับและส่งสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย แผนฟื้นฟูกิจการไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ

เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันภัยเป็นการชั่วคราว ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัทหรือทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่การจ่ายเงินเดือน หรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายอื่นให้เป็นไปดามที่นายทะเบียนกำหนด