วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกNEWS“สุพัฒนพงษ์”ยันยังไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์ เชื่อคุมสถานการณ์ได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สุพัฒนพงษ์”ยันยังไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์ เชื่อคุมสถานการณ์ได้

”รองนายกฯ”ระบุยังไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ประเทศ ประสบการณ์จากจ.สมุทรสาครทำให้คิดว่าคุมสถานการณ์ได้  ยอมรับ GPD ประเทศไม่เป็นไปตามเป้าร้อยละ 4และยังไม่ล้มแผนเปิดประเทศ

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า ขณะนี้การส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่รัฐบาลจะต้องกลับไปดูในเรื่องการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในประเทศว่าจะกระตุ้นอย่างไร เช่น การนำเงินฝากของประชาชนเมื่อปีที่แล้วให้ออกมาจับจ่าย

”ส่วนตัวเชื่อว่าสถานการณ์ดีขึ้น เพราะทุกคนปรับตัว และมีตัวอย่างผู้ติดเชื้อที่จังหวัดสมุทรสาครมาก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลได้ดูแล และบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และในขณะนี้ทุกคนต่างตระหนักรู้ เมื่อมีความกังวลว่าติดเชื้อก็เข้าสู่การตรวจหาเชื้อ ทำให้พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติการเชิงรุกของตัวเองรับผิดชอบต่อสังคม โดยที่รัฐบาลไม่ต้องสั่ง ส่วนตัวมองเป็นเรื่องที่ดี เมื่อพบเชื้อก็เข้าสู่การรักษา ซึ่งขณะนี้ระบบการรักษาในประเทศไทยมีเพียงพออยู่แล้ว” รองนายรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนมาตรการของ ศบค.ที่จะออกมาในช่วงบ่ายนี้นั้นส่วนตัวมองว่า ไม่จำเป็นต้องล็อคดาวน์ประเทศ เพราะประสบการณ์จากจังหวัดสมุทรสาครที่มียอดผู้ติดเชื้อสูง แต่ก็สามารถบริหารจัดการผ่านมาได้ แต่ข้อสำคัญคือทุกคนต้องเว้นระยะห่าง รักมากยิ่งต้องห่างมาก และยิ่งต้องตรวจเชื้อตามกำหนดเวลา และมาตรการต่าง ๆ เน้นไปที่การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะต้องดูแลควบคุมการระบาดไม่ให้ประชาชนกังวล

ส่วนแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 กค.นี้ จะส่งผลกระทบหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องประเมินสถานการณ์รายวัน แต่แผนไม่ได้หยุด ทุกคนยังเดินหน้าทำงานเช่นเดิม โดยเฉพาะการปฏิบัติการเชิงรุกดึงดูดนักลงทุนที่จะต้องทำ เพราะการระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก และเท่าที่ทราบภาคธุรกิจกังวลเรื่องของความมั่นใจในการควบคุมทั้งสถิติผู้ติดเชื้อ และผู้หายจากการติดเชื้อซึ่งจะเป็นจุดตันสินใจของภาคธุรกิจว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่งการเดินหน้าเศรษฐกิจของรัฐบาลต้องควบคู่ไปกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่ทั้ง 2 ทาง

”ยอมรับว่าการระบาดโควิด-19ในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อตัวเลข GDP ของไทยที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 4  อาจจะไม่เป็นไปตามเป้า แต่ก็จะต้องกัดฟันสู้  พยายามหาโอกาส แม้จะเป็นรูที่เล็กแต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อทุกคนในประเทศ  การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศยังคงเดินหน้าต่อ และยังคงมีโครงการดีๆ ยังรออยู่ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่และคนไทยทุกคน” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img