วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlightสำนักงานสลากฯ รื้อระบบซื้อจองหวยแก้ปัญหาราคาแพง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สำนักงานสลากฯ รื้อระบบซื้อจองหวยแก้ปัญหาราคาแพง

สำนักงานสลากฯแก้ปัญหาหวยแพง  กำหนดโรดแมปคลอด 3 มาตรการแก้ปัญหา ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว รื้อ ระบบซื้อจองหวยเปิดรับสมัครใหม่ 2 แสนราย เปิดลงทะเบียนสลาก 80 เริ่ม 24 ธ.ค.นี้

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล  เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาสลากเกินราคาว่า  สำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีมาตรการและแนวทางเพื่อป้องกันและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง สาเหตุของปัญหาสลากเกินราคาในขณะนี้ นอกจากความต้องการตัวเลขของผู้ซื้อสลากแล้ว จากสถานการณ์โควิด ทำให้มีผู้สนใจหันมาประกอบอาชีพจำหน่ายสลากมากขึ้น ทำให้สลากในตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขาย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น 

นอกจากนี้ส่วนใหญ่ไม่มีสลากของตัวเอง ต้องไปรับมาจำหน่ายอีกทอดหนึ่ง ทำให้ต้องขายสลากในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับมีช่องทางการจำหน่ายแบบใหม่ๆ ทำให้ปริมาณสลากเป็นที่ต้องการมากขึ้น คณะกรรมการสลากฯ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานฯ หาแนวทางและมาตรการ เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว 

ล่าสุด คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติกำหนดโรดแมป ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แนวทางประกอบด้วย 1. การขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” 2.การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย และ 3. การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ 

สำนักงานสลากกินแบ่งจะเริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “สลาก 80” พร้อมทั้งจะขยายจุดจำหน่ายในเชิงกว้าง โดยเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายขยายทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนไม่เกิน 1,000 จุดจำหน่าย ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 – 24 มกราคม 2565 สำหรับผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองตัวแทนจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” โดยมีระยะเวลาในการขึ้นบัญชีสำรอง 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า  แนวทางแรกการขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” ไปทั่วประเทศ มีทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยเชิงลึก พิจารณาเพิ่มเขต/อำเภอละ 1 จุด จากรายชื่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองของแต่ละเขต/อำเภอแล้ว ส่วนในเชิงกว้าง คือให้เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 75 จังหวัด อำเภอละ 1 – 2 จุด รวมจำนวนไม่เกิน 1,000 จุด 

สำหรับแนวทางที่สอง คือ การเปิดรับสมัครลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 200,000 ราย โดยสมัครผ่านเว็บไซต์ หลังจากนั้น จะนำข้อมูลผู้สมัครมาคัดกรองคุณสมบัติ จากนั้นถ้ามีผู้สมัครเกินจำนวนจะใช้วิธีเรียงลำดับแบบสุ่มหรือ Random sort ทั้งส่วนกลางและรายจังหวัด คาดว่าจะสามารถได้รายชื่อผู้ลงทะเบียน และเริ่มทำรายการได้ตั้งแต่สลากงวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

 ในส่วนของแนวทางที่ 3 เรื่องของการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น โดยที่ลักษณะของสลากยังคงเป็นสลากประเภทและรูปแบบเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบัน จึงสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม วิธีดำเนินการเริ่มจากตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม มอบสลากให้สำนักงาน ฯ นำเข้าระบบ  

โดยสำนักงานฯ เก็บสลากตัวจริงไว้เพื่อใช้เป็นเป็นหลักฐานในการรับเงินรางวัล ประชาชนที่ต้องการซื้อสลากในระบบนี้ จะต้องลงทะเบียนผู้ซื้อก่อนและจ่ายเงินเข้าบัญชีตัวแทนจำหน่าย ข้อดีของระบบนี้ ระบบการสั่งซื้อจะถูกบันทึกและจัดเก็บไว้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายได้ และเมื่อถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนให้ติดต่อขอรับเงินรางวัล 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ปัญหาสลากเกินราคาต้องใช้หลายมาตรการประกอบกัน เนื่องจากปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุ จากการกำหนดโรดแมป ทั้ง 3 แนวทางในวันนี้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้ขายสลากนอกระบบ และผู้จำหน่ายในส่วนของตลาดดอทคอมต่างๆ และจะทำให้ตลาดนี้ต้องขายในราคา 80 บาท 

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่แบ่งเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นั้น รูปแบบสลากใบยังคงมีจำหน่ายเหมือนเดิม แต่จะดูแลให้อยู่ในราคาใบละ 80 บาท ส่วนรูปแบบขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสำนักงานสลากฯ จะเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เอง จะมีการพิจารณาสัดส่วนการจำหน่ายแบบใบและแบบผ่านแพลตฟอร์มให้มีความเหมาะสม 

ทั้งนี้ ในส่วนของการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น แม้ว่าในเบื้องต้น สำนักงานฯ เห็นว่าสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นสลากแบบเดิมแต่เปลี่ยนช่องทางการจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ จะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ได้รับความเห็นชอบในส่วนของขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ปริมาณสลากปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับ ขณะนี้ ถือว่าเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของคนซื้อ และต้องยอมรับว่าช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และขอยืนยันว่าผู้ค้าในระบบเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการจะมีการให้ความรู้ในการใช้งานระบบด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img