“รุ่ง”มองเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.25-35.80 บาทต่อดอลลาร์เผยสถิติสกุลเงินในภูมิภาคต้นเดือนมิ.ย.-ปัจจุบันบาทอ่อนรั้งอันดับ 3 จากกระแสเงินทุนไหลออกหลังสหรัฐฯเร่งสปีดขึ้นดอกเบี้ย
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทในสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 35.25-35.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ราคาน้ำมัน
ค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือน พ.ค. และดัชนี ISM ภาคการผลิต เดือน มิ.ย.ของสหรัฐฯ รวมถึง ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค. ของไทย
ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาคตั้งแต่1 มิ.ย.- 24 มิ.ย. ที่ผ่านมาพบว่าวอน-เกาหลีใต้อ่อนค่าสุด 4.63 % รองลงมาคือเปโซ-ฟิลิปปินส์ 4.5% บาท-ไทย 3.78 % ดอลลาร์-ไต้หวัน 2.37%รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.78% ดอลลาร์ -สิงคโปร์ 1.38% รูปี-อินเดีย 0.86% ริงกิต-มาเลเซีย 0.65% หยวน -จีน 0.35% ดอง-เวียดนาม 0.25 %
สำหรับเงินบาทอ่อนจากกระแสเงินทุนไหลออก ซึ่งตั้งแต่ 1 มิ.ย. -24 มิ.ย.ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 3.2 หมื่นล้านบาท ขายพันธบัตรสุทธิ 4 หมื่นล้านบาท(โดยมีตราสารครบอายุ 2.6 หมื่นล้านบาท)
ขณะที่สหรัฐฯเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย คุมเงินเฟ้ออีกทั้งการลดขนาดงบดุลของเฟด กดดันสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ผ่านภาวะตลาดการเงินตึงตัวราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแม้จะย่อตัวลงแต่สะท้อนความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯและอาจกระทบการส่งออกของประเทศในภูมิภาคนี้ได้ในระยะข้างหน้า
ส่วนทิศทางดอกเบี้ยของไทยนั้น คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ยเดือน ส.ค. 0.25% และ เดือน ก.ย. 0.25%อาจมีผลบ้างทางด้านจิตวิทยาว่าเราไม่ได้สวนกระแสโลกขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายระหว่างสหรัฐฯกับไทยยังกว้าง ต้องรอจนกว่าตลาดมั่นใจในหลักฐานว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯผ่านจุดสูงสุดไปแล้วsentiment ตลาดเกิดใหม่จึงจะเริ่มดีขึ้น
ทั้งนี้เงินบาทมีโอกาสหลุด 36 บาทต่อดอลลลาร์ แต่ส่วนตัวมองว่าจะยืนระยะไม่ได้และแกว่งตัวออกข้างมากกว่า ด้านปัจจัยเฉพาะตัว ของไทย เรามองบวกต่อภาคท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ของปีนี้ และหากจีนคลายล็อคมาตรการดูแลโควิดในช่วงต้นปีหน้าจะยิ่งส่งผลดีต่อค่าเงินบาท
