วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกNEWS"ไทยภักดี" ออกแถลงการณ์จี้ "ทบ.-อสส." รื้อคดี "ทักษิณ" หมิ่นเบื้องสูงปี 58 จ่อส่งคัดค้านอภัยโทษพรุ่งนี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ไทยภักดี” ออกแถลงการณ์จี้ “ทบ.-อสส.” รื้อคดี “ทักษิณ” หมิ่นเบื้องสูงปี 58 จ่อส่งคัดค้านอภัยโทษพรุ่งนี้

“ไทยภักดี” ออกแถลงการณ์จี้กองทัพบก-อัยการสูงสุด รื้อคดี”ทักษิณ” หมิ่นเบื้องสูงปี 58 จ่อส่งคัดค้านปมขอพระราชทานอภัยโทษพรุ่งนี้ “วรงค์” แนะควรได้รับโทษตามมาตรฐานแบบเดียวคนอื่น 

วันที่ 27 ส.ค.2566 ที่พรรคไทยภักดี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี พร้อมด้วย นางอิสราพร นรินทร์ หัวหน้าพรรค แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีความเก่าของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคดีเก่าเมื่อปี 2558 ที่ทางกองทัพบกยื่นฟ้องทางนายทักษิณ หมิ่นประมาท จากที่มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ จากประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกระทบต่อกองทัพบก ซึ่งเรื่องดังกล่าวท้ายสุดแล้ว อัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

โดยในส่วนของ 2 ประเด็น หลัก คือ 1. ในเรื่องของการขอให้กองทัพบกและอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ เร่งรัดดำเนินคดีหมิ่นประมาท  และคดีความผิด ม.112  กับนายทักษิณ    และ 2.  ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนักโทษชายทักษิณ มองเป็นเรื่องที่อาจจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทเบื้องบนได้

นางอิสราพร  กล่าวว่าคดีของนายทักษิณมีทั้งหมด 9 คดี และมีการพิพากษาของศาลแล้ว 4 คดี รวม โทษจำคุกทั้งหมด 12 ปี  แต่มีบางคดีที่โทษจำคุกหมดอายุความ   รวมทั้งบางคดีถือว่าจำคุกซ้อนกันและต่อเนื่อง   จึงเหลือจำคุกโทษ 8 ปี    ซึ่งในส่วนนี้ยังคงมีคดีที่คงค้างอยู่ในศาลอีกหนึ่งคดี   นั้นก็คือกรณีที่กองทัพบกยื่นฟ้องนายทักษิณหมิ่นประมาทจากที่มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ  จากประเทศเกาหลีใต้    เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกระทบต่อกองทัพบก   คดีดังกล่าวศาลรับฟ้องเมื่อช่วงวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา   รวมไปถึงยังมีคดีที่เป็นความผิดร้ายแรง  ในช่วงก่อนหน้าจากที่ถูกออกหมายจับโดยตำรวจ ปอท.หมิ่นประมาท ดูหมิ่น ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีอายุความ 15 ปี    ซึ่งสุดท้ายแล้วมีกระแสข่าวว่าอัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์   ซึ่งสุดท้ายแล้วนายทักษิณได้มอบหมายให้ทนายยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดและขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งทบทวนความเห็นดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อนายทักษิณ  เดินทางกลับมายังประเทศไทยและถูกจำคุกไปแล้วจาก 3 คดี  รวม 8 ปี  ทางพรรคไทยภักดี เลยอยากจะสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ยังคงค้างอยู่  โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพบก ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เลยอยากให้กองทัพบกมีการเร่งรัดรื้อคดีขึ้นมาอีกครั้ง  เช่นเดียวกับทางอัยการสูงสุดเอง ควรจะเร่งนำคดีดังกล่าวมาพิจารณา เพราะมองว่าเป็นคดีที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของชาติ 
 
รวมไปถึงพรรคไทยภักดี ขอคัดค้านในส่วนของการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนายทักษิณ ชินวัตร เพราะมองว่าต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอรัปชั่น และปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในช่วงที่มีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากถึง 4 คดี   มองเป็นการกระทำความผิดหลายกรรม หลายวาระ  ประเทศชาติเองย่อมได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมของนายทักษิณที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาล  และที่สำคัญหากได้รับสิทธิ  จะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ  ไม่เสมอภาค  เท่าเทียมกันทางกฏหมายของประชาชน   ทำให้วาทะกรรมที่ว่าคุกมีไว้ขังคนจนปรากฏเป็นจริงขึ้นมา
 
นพ.วรงค์   ยังเผยว่าเพื่อความชัดเจนพรุ่งนี้ (28ส.ค.) ตนจะส่งตัวแทนของพรรคไทยภักดี เข้ายื่นเรื่องต่อกรมราชทัณฑ์ เพื่อคัดค้านในประเด็นดังกล่าวช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.   และมีการยื่นเรื่องต่อไปยัง ปอท.ช่วง 11 โมง 
 
เมื่อถามถึงความคิดเห็นเรื่องที่นายทักษิณ กลับมาในประเทศ พร้อมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย แต่กลับมีข้อกังขาเรื่องของอาการป่วย ที่ค่อนข้างขัดแย้งกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในช่วงที่จะกลับมา  ในส่วนนี้  นพ.วรงค์ ระบุว่า  เรื่องดังกล่าวในโซเชียลมีเดียยอมรับว่าค่อนข้างเป็นกระแสสังคมที่ค่อนข้างแรง   อาการป่วยและเหตุจำเป็นที่จะต้องย้ายไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่ค่อนข้างขัดแย้งกับช่วงที่เขากลับมา ทำให้หลายคนมองว่าเป็นเหตุการณ์ป่วยการเมืองหรือไม่  ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้นในส่วนของพรรคไทยภักดีพร้อมจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง และให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใสอย่างตรงไปตรงมา  “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสังคมไม่เชื่อว่าทางนายทักษิณจะมีอาการป่วยจริง ซึ่งทางออกเดียวที่สามารถชี้แจงและกระจ่างให้สังคมไม่เกิดข้อกังขา  นั่นก็คือทางเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ควรจะออกมาแถลงหรือชี้แจงถึงสาเหตุการป่วย  ไม่ถึงขั้นกดดันที่จะต้องให้มีภาพหรือทางสื่อมวลชนสามารถเข้าไปตรวจสอบในส่วนของอาการป่วย 
ถามความเห็นส่วนตัวในฐานะแพทย์ ไม่เชื่อว่าทางเจ้าตัวจะมีอาการป่วยจริง  อยากให้หน่วยงานหรือรัฐบาลที่เกี่ยวข้องควรจะมีการทำอย่างตรงไปตรงมา”

ส่วนท่าทีการกลับมาของนายทักษิณนั้น   นพ.วรงค์ กล่าวว่าตนเองและพรรคไทยภักดี  ยืนยันเจตนารมณ์และแสดงจุดยืนมาทั้งแต่ต้นในช่วงที่มีการหาเสียง  ว่าพร้อมที่จะให้นายทักษิณกลับบ้าน  พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตอนนี้ได้เกิดขึ้นและเริ่มต้นแล้ว  และหลังจากนี้จะต้องมีการดำเนินการโปร่งใส   ในส่วนตัวและพรรคไทยภักดีก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็นภาพดังกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลที่ตอนนี้ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการจัดตั้งในฐานะมุมมองนักการเมือง มองว่าทิศทางของรัฐบาลในอนาคตจะเดินหน้าไปอย่างไร นพ.วรงค์ มองว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล 11 พรรคเป็นหลัก และหวังรวมไปถึงเรียกร้องกับทางพรรคร่วมมากกว่า เพราะมีบางพรรคที่ตนเองเคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้กันมา เชื่อว่าในส่วนของพรรคร่วมเองคงจะมองเห็นความถูกต้องเป็นหลัก ในใจมองเห็นความสำคัญของพี่น้อง กปปส. ที่ไปต่อสู้กับระบอบทักษิณ ตาย 24 บาดเจ็บ 700 หลังจากนี้เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคร่วมควรจะยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรมและความถูกต้อง ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชน มองรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาเป็นรัฐบาลสมานฉันท์ หรือ รัฐบาล สบประโยชน์ ในส่วนนี้ตนไม่ขอตีตรา แต่จะให้โอกาสรัฐบาลได้พิสูจน์สิ่งที่พูด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img