วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight‘นายกฯลุงตู่’เข้ม-หยุดไปเที่ยวที่อโคจร พร้อมลดขั้นตอนให้เอกชนนำเข้าวัคซีน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘นายกฯลุงตู่’เข้ม-หยุดไปเที่ยวที่อโคจร พร้อมลดขั้นตอนให้เอกชนนำเข้าวัคซีน

“นายกฯลุงตู่” เสียงเข้ม หยุดสักทีพวกไปเที่ยวที่ “อโคจร” เตือนเป็นบทเรียนให้นักการเมือง ลั่นตัวเองไม่เคยไปเที่ยวมาหลายสิบปี แต่ตอนหนุ่มๆ เป็นคนละเรื่อง ส่งทีมกม.ไปดู เตรียมฟ้องคนโยง “ไทยคู่ฟ้าคลับ” ย้ำไทยไม่ได้ฉีดวัคซีนช้ากว่าใคร เตรียมเปิดทางรพ.เอกชนช่วยรัฐ นำเข้าวัคซีนเป็นทางเลือก

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังร่วมกับคณะแพทย์ ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารป้องกันโควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็กว่า วันนี้ขอให้พวกเราทุกคนระวังตัวไว้ด้วยกับสถานการณ์ในวันนี้ ที่ตนบอกว่าอะไรจะเกิดมันต้องเกิดนั้น เพราะตราบใดที่ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ทั้งหมด เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ไม่มีอะไรจบปุ๊บปั๊บ เพราะเป็นเรื่องเชื้อโรค เราต้องมองไปข้างหน้าด้วยว่า หลังโควิดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นอีก เช่น เชื้อสายพันธุ์ใหม่ วันนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจกันกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข รวมทั้งได้เชิญตัวแทนรพ.เอกชน มาด้วย โดยหารือหลักการนำเข้าวัคซีนเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง แต่ปัญหาคือ ต้องไปแก้ไขเรื่อง อย. และเภสัช ด้วย เพื่อพิจารณาการนำเข้าวัคซีน เพราะย้ำว่าเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงให้ไปหาทางว่าเอาเข้ามาได้อย่างไร เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือก วันนี้เราจึงเดินหน้าเรื่องวัคซีนทางเลือก โดยหารือกับผู้ผลิตด้วย เพราะมีหลักการหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยินดีที่รพ.เอกชนจำนวนมากอยากหาวัคซีนช่วยรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยปิดกั้นอยู่แล้ว แต่มีปัญหาในเรื่องการนำเข้า ซึ่งเกี่ยวกับต่างประเทศด้วย จึงต้องไปปลดล็อคตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีวัคซีนเข้ามาแล้ว 3.5 แสนโดส และในเดือนเม.ย.นี้ จะเข้ามาเพิ่มเติม 1.5 ล้านโดส และจะเข้ามาตามลำดับ เว้นแต่มีปัญหาที่ต้นทาง ซึ่งจะควบคุมได้ยาก ส่วนที่จํานวนผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้น 300-400 ราย ที่ทำให้ตระหนกกันนั้น ยืนยันว่าเราควบคุมได้ โดยพาตัวมาเข้าสถานกักตัว เข้ารับการรักษา และเตรียมรพ.สนาม ซึ่งเตรียมการไว้ทั้งหมด หากสถานการณ์แพร่ระบาดมากขึ้น นายกฯไม่เคยทอดทิ้งใคร ขณะเดียวกันวันนี้ได้ข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หมอและพยาบาลติดเชื้ออีก ดังนั้นทำอย่างไรไม่ให้มีการระบาดในโรงพยาบาล จึงต้องมีโรงพยาบาลสนามไว้ตรวจคัดกรอง ยืนยันว่าน้ำยาตรวจมีเพียงพอ ไม่มีปัญหาอะไร

นายกฯ กล่าวย้ำว่า วันนี้ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเอง เว้นระยะห่างสวมหน้ากากและล้างมือและเว้นไปในที่อโคจร ระมัดระวังตัวเอง ตนก็ไม่รู้ทำอย่างไร เพราะไปสั่งห้ามคนไม่ให้ไปไม่ได้ มีอย่างเดียวคือสั่งปิดสถานบริการ วันนี้สั่งปิดเพิ่มอีกใน 41 จังหวัดตามมาอีก แล้วใครเดือดร้อน ซึ่งเราโทษใครไม่ได้ แต่ทุกคนต้องทำเพื่อคนไทย นายกฯเข้ามาเพื่อแบบนี้ นอกจากนี้ในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยงและกิจกรรมเสี่ยง ต้องได้รับการดูแล โดยสงกรานต์ปีนี้ขอให้เป็นสงกรานต์ปลอดภัย เป็นแบบ New Normal การไปรดน้ำพระ หรือไปที่ที่มีคนจำนวนมาก ยังอันตรายทั้งหมด จึงขอให้รดน้ำคนที่บ้าน สิ่งสำคัญนอกจากไหว้พระ แล้วต้องทำกุศลให้คนอื่นปลอดภัยด้วย มีจิตสำนึกรู้คิด รู้ธรทำ รู้ปฏิบัติ นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงในช่วงรอมฎอนด้วย ขอให้ระมัดวังที่สุด เพราะสถานการณ์โควิดทั่วโลกยังไม่หยุด มีคนติดเพิ่มเป็นหมื่นๆ บางประเทศตายเป็นแสนๆ แต่ของเราไม่ได้จะว่ามากหรือน้อย เพราะชีวิตคือชีวิต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการฉีดวัคซีน อย่ามองว่าฉีดช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ ทั้งนี้หลายประเทศไม่ต้องจัดหาวัคซีนเองด้วยซ้ำ เช่นประเทศมีรายได้น้อย แต่เป็นการฉีดให้ทดลองก่อน แล้วเรากล้าหรือไม่ ดังนั้นไม่ใช่ช้ากว่าเขา ถ้าวัคซีนมีฉีดได้หมด แต่เราไม่ใช่วัคซีนบริจาคซื้อเอง เพราะเรารายได้ปานกลาง ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันวันนี้เราต้องบริหารความเข้าใจให้ได้ลดความแตกแยก เพราะทุกคนเป็นคนไทยและสำคัญทั้งหมด ตนเองในมุมหนึ่งเป็นนายกฯและนักการเมือง แต่ก็เป็นประชาชนเหมือนทุกคน ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะทำงาน โดยมีนพ.ปิยสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์ศบค. เป็นประธานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมและบริหารการฉีดวัคซีน โดยต้องฉีดให้ได้ อย่างน้อย 45 ล้านคนทั้งประเทศ

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการลดขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนของภาคเอกชนได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พร้อมที่จะลดขั้นตอน แต่ต่างประเทศเขาไม่ยอมลด เพราะมีมาตรฐานที่ทั้งโลกต้องดำเนินการ แต่ปัญหาหลักคือ ตอนนี้ต่างประเทศจะขายให้เราหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ก็มีการแย่งวัคซีนกัน ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้ดำเนินการช้าไปกว่าประเทศอื่น อย่างในประเทศอินเดียที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่จากบริษัทแอสตราเซกา ยังประสบปัญหาผลิตไม่ทัน เพราะคนติดเชื้อมากขึ้น ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศไทยก็มีมากขึ้น แต่ที่สำคัญคือต้องไม่เจ็บและไม่ตาย รักษาให้ได้ ซึ่งขณะนี้ยารักษาภายในประเทศนั้นเพียงพอ ส่วนวัคซีนนั้นสามารถป้องกันได้ แต่ไม่ใช่ป้องกันได้ 100% เป็นเพียงการเพิ่มภูมิต้านทานให้ติดเชื้อยากขึ้น ไม่ใช่ว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไปในสถานที่อโคจร ไม่เช่นนั้นก็ติดอยู่ดี

เมื่อถามถึงกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนไม่รับตรวจโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เกิดจากสาเหตุเตียงของโรงพยาบาลเอกชนไม่เพียงพอ หากรับตรวจ เมื่อพบว่าติดเชื้อก็ต้องรักษา จึงต้องนำผู้ป่วยนี้ดึงออกมาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ยืนยันว่าขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนสามารถตรวจได้แล้วและมีน้ำยาเพียงพอ

ส่วนแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเพียงแผน หากดำเนินการไม่ได้ ก็ไม่ทำตามแผน หากจะบังคับใช้ได้จริง จะต้องออกมาเป็นคำสั่ง ไม่ใช่แผน รวมถึงการเจรจากับประเทศ เช่น มีวัคซีนพาสปอร์ตหรือไม่ ขอย้ำว่าแผนการเปิดประเทศ ไม่ใช่เปิดโล่งทั้งหมด ต้องดูด้วยว่าประเทศเพื่อนบ้าน เขาเปิดหรือไม่ ทุกวันนี้ต้องย้ำเรื่องเศรษฐกิจค้าขายเป็นหลัก ทั้งต้องเตรียมวัคซีนให้พร้อมในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งทำอะไรต้องเป็นกลางเสมอ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เท่าเทียม รับฟังความคิดเห็นว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้บ้าง ไม่ใช่เพียงแค่คิดแล้วสั่งโครมๆ ลงไปเลย

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่นักการเมืองหรือรัฐมนตรีบางคนยังเดินทางไปที่อโคจร รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นได้อย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่ ใครจะไปที่ไหนมาก็รู้ตัวอยู่แล้ว รัฐบาลจะไปห้ามก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล วันนี้ตนมองว่าเป็นบทเรียนพอสมควรแล้ว ขอให้หยุดกันเสียที เพราะหากใครติดเชื้อก็ต้องรักษา ซึ่งเป็นบทเรียนว่า สถานที่อโคจร ไม่ควรไป เพราะนายกฯก็ไม่เคยไปไหนเลยกว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนเลย แต่สมัยหนุ่มๆ ก็คงคนละเรื่อง แต่ไม่ไปขนาดนี้

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ว่า มีการรายงานการกักตัวเข้ามาให้ทราบ ซึ่งเขาก็โอเค และได้สั่งการให้ทำงานอยู่ที่บ้าน​ ผ่านการประชุมระบบวิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์​ สั่งงานผ่านแอพ​พิเคชั่น​ไลน์​ ไม่ใช่กักตัว​ 14 วันและจะหายไปเลย ทุกคนมีความรับผิดชอบ​ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใด ก็รับผิดชอบ จึงขอทุกคนรับผิดชอบไปกับตนเองด้วยรวมถึงสื่อมวลชนด้วยว่าจะทำยังไงให้บ้านเมืองสงบ​

ส่วนกรณี​ที่รัฐสภามีการเลื่อนพิจารณา​ร่างประชามติ​ นายกรัฐมนตรี​ย้อนถามว่า “เพราะอะไร” ก็เพราะมีการติดเชื้อโควิด​ ซึ่งตนจะไปบังคับใครไม่ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของสภา​ฯ เมื่อมีการระบาด สมาชิกก็กลัวจะติดไปด้วย​ ยืนยันว่าตนจะไม่เข้าไปยุ่งกรณีที่ร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ผ่าน​ เพราะหลายอย่างที่เสนอผ่านรัฐบาลไปแล้วเป็นสิ่งที่เห็นชอบและจะไปควบคุมไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไร​ เพราะทุกคนมีความคิดไม่ต้องไปสั่งเขา​

ส่วนการออกมาตรการ​ของจังหวัด​ที่ออกมาควบคุมป้องกันการแพทยระบาดนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มี 2 อย่าง​ คือจังหวัดจะจัดการพื้นที่อย่างไรที่มีการระบาดอย่างไร และจะเข้าไปอย่างไร​ และอีกประการคือคนที่จะเข้าไป​ มาจากพื้นที่ใดบ้าง ส่วนจะเพิ่มพื้นที่หรือไม่​ ศบค.​ จะเป็นผู้แถลงชี้แจง​ และในวันนี้​ สถานบันเทิงก็มีปิดตัวลง​และได้รับความเดือดร้อน​ด้วย อีกทั้งตนยังได้สั่งตำรวจดูแลในเรื่องของอุปกรณ์การตรวจวัดแอลกอฮอล์​ในจุดตรวจด่านแอลกอฮอล์​เพื่อลดการแพร่ระบาดด้วย​ โดยยืนยันว่ามีการเปลี่ยนหลอดเป่าอยู่ตลอดไม่ใช่การเป่าปี่หรือดูดแต่อย่างใด​

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการโยงสถานบันเทิงกับตึกไทย​คู่​ฟ้าว่า​ กำลังสั่งการให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ว่าผิดกฎหมายหรือไม่​ การใช้คำว่า “ไทยคู่ฟ้า”​ ไปทำโน้นทำนี้​ คงไม่ใช่ ขอให้ระวังกันด้วย​

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img