ตร.เผยศาลแขวงพระนครใต้สั่งจำคุก 2 ผจก.คริสตัลคลับ-เอเมอรัลผับทองหล่อ ชี้หากเข้าเงื่อนไขข้อกำหนดตามคำสั่งคสช.โดนปิดถึง 5 ปี
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ว่าขณะนี้ ได้ดำเนินคดีกับนายชวลิต พุทธราช อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้านคริสตัลคลับ และ นายครรชิต ซื่อบริสุทธิ์ใจ อายุ 29 ปี ผู้จัดการเอเมอรัลด์ผับทองหล่อ เรียบร้อยในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.สถานบริการ ซึ่งศาลแขวงพระนครใต้ สั่งจำคุกผู้จัดการร้านเป็นเวลา 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญา พร้อมตั้งคณะกรรมการเพื่อเสนอปิดสถานบันเทิงดังกล่าวนอกเหนือจากสถานที่ตามประกาศของ กทม.และประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ หากเข้าเงื่อนไขข้อกำหนดตามคำสั่ง คสช.อาจสั่งปิดถึง 5 ปี
สำหรับอาการของตำรวจ สน.ทองหล่อสายปฏิบัติการ 18 รายที่ติดเชื้อไวรัสนั้น จากการสอบถามแพทย์ รพ.ตำรวจ ระบุว่าความเป็นไปได้ว่า แม้เจ้าหน้าที่จะป้องกันตัวก็เป็นไปได้ที่ตำรวจไม่สวมใส่ถุงมือจนเกิดการติดเชื้อได้
ส่วนภาพรวมเหตุการณ์สำคัญในรอบสัปดาห์นั้น ทางพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เรื่องแรกเป็นการชุมนุมทางการเมือง 5 กลุ่มวานนี้ ที่กระจายตัวชุมนุมในพื้นที่วัดชนะสงคราม แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย ผกก.สน.ชนะสงคราม เตรียมข้อมูลเพื่อประชุมสืบสวนสอบสวน ว่ามีความผิดตามกฎหมายใดบ้าง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมาย ย้ำว่า กรุงเทพฯ มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามไม่ให้ชุมนุมจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
ต่อมาเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 7-9 เมษายนที่ผ่านมา บช.น.ได้ระดมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมในกองบังคับการทั้ง 9 แห่งแล้วเนื่องจากเป็นพื้นที่หลักที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก
นอกจากนั้นทางบช.น.ตั้งเป้าหมายลดสถิติความสูญเสียในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2561-2562 ให้ลดลงร้อยละ 5 ในห้วง 7 วันอันตราย ต้องเสียชีวิตไม่เกิน 10 ราย บาดเจ็บไม่เกิน 53 ราย และไม่เกิน 42 คดี พร้อมตั้งจุดตรวจวินัยกวดขันจราจรทั่วทุกพื้นที่ ในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งทั้งหมด 12 จุด
สำหรับสถิติการดำเนินคดีใน 10 ข้อหาหลักการจราจรได้แก่ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดจับกุม 24 ราย ย้อนศร 2 ราย ฝ่าไฟแดง 3 ราย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 30 ไม่คาดเข็มขัด 20 ราย แซงในที่คับขัน 9 ราย โทรศัพท์ระหว่างขับขี่ 4 ราย อันเป็นสาเหตุของความสูญเสียในช่วงเทศกาลสงกรานต์
นอกจากนี้ยังปีที่ 2 ที่ดำเนินโครงการประชารัฐร่วมใจ ฝากบ้านกับตำรวจ โดยได้นำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งปีนี้มีสถิติการฝากบ้านกับตำรวจทั้งหมด 400 หลังคาเรือน ฝากผ่านระบบ 222 หลังคาเรือน มาฝากด้วยตัวเอง 178 หลังคาเรือน
