วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight‘สธ.’ย้ำใครติดโควิด-19ทุกคนรักษาฟรี อย่าเซ็นต์รับสภาพหนี้-มาร้องเรียนได้!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘สธ.’ย้ำใครติดโควิด-19ทุกคนรักษาฟรี อย่าเซ็นต์รับสภาพหนี้-มาร้องเรียนได้!

“อธิบดีกรมการแพทย์” ย้ำผู้ติดเชื้อโควิดทุกราย ต้องอยู่ในสถานพยาบาลที่รัฐจัดให้ ทุกสิทธิ์รักษาฟรี ยกเว้นใครมีประกันส่วนตัว แนะอย่าไปเซ็นต์รับสภาพหนี้ ถ้าถูกบีบร้องเรียนได้ พร้อมวอนอย่าดราม่าเลือกสถานที่รักษา เพราะคนติดเชื้อมีมาก อาจไม่สะดวกดั่งใจ แต่การันตีความปลอดภัยแน่

เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เรื่องเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น ฝ่ายการเมืองย้ำชัดเจนว่า ทุกคนต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้สถานการณ์คนไข้ช่วงนี้ขึ้นไป 1,200 ราย ยังไม่ได้ให้กักตัวเองที่บ้าน เพราะเรายังไม่มั่นใจว่า ผู้ติดเชื้อจะแยกตัวจากคนในบ้าน 14 วันได้อย่างเด็ดขาด เพราะเราเป็นห่วงผู้สูงอายุที่บ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากรับเชื้อ อีกทั้งได้รับข้อมูลจากแพทย์ที่ดูแลคนไข้พบว่า บางรายแม้จะไม่มีอาการ แต่ก็พบว่ามีปอดอักเสบจำนวนไม่น้อย ดังนั้นนโยบายคือ ช่วงนี้ผู้ติดเชื้อทุกราย ต้องถูกให้อยู่สถานพยาบาล หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ก็อาจจะมีการหารือปรับเปลี่ยนมาตรการได้ โดยภาพรวมเตียงในกทม. มีกว่า 4,000 เตียง ต่างจังหวัดกว่า 20,000 เตียง

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทขอยืนยันอีกครั้งว่า นโยบายขณะนี้รพ.ที่ตรวจโควิดผลเป็นบวก จะต้องประสานรพ.ในเครือข่ายในการจัดหาเตียงให้ โดยรพ.เอกชน ประสานรพ.เอกชน รพ.รัฐประสานรพ.รัฐ หากเกินศักยภาพ ก็ประสานข้ามเครือข่ายได้ จากข้อมูลอัพเดทเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา รพ.ยังมีเตียงว่าง 1,132 เตียง นอกจากนั้นยังมีเตียงสนามและฮอสพิเทลยังว่างอีก 944 เตียง ที่เตรียมไว้รองรับคนที่มีอาการไม่มาก ไม่มีโรคประจำตัวเข้าไปอยู่เป็นเวลา 14 วัน และจากการประชุมช่วงเช้าวันที่ 12 มี.ค. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุว่าสามารถหาฮอสพิเทลได้เพิ่มเติมเป็น 3,900 เตียงแล้ว

“สำหรับกรณีค่ารักษาพยาบาลนั้น ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อเข้ารพ.เอกชน ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ยกเว้นว่ามีประกันส่วนตัว ถ้ามีก็ให้ประกันช่วยจ่ายก่อน ย้ำว่าตรวจรักษาฟรี”นพ.สมศักดิ์กล่าวและว่า ถ้ารพ.เอกชนแห่งใดจะให้ผู้ติดเชื้อเซ็นรับสภาพหนี้นั้น ขอบอกว่าอย่าเซ็นต์และให้ประสานหรือร้องเรียนที่ สปสช.ได้

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเปิดสายกรมการแพทย์ 1668 เป็นสายด่วนเฉพาะกิ จรับสายเวลา 08.00-22.00 น.ทุกวัน ประสานหาเตียงเมื่อวันที่ 11 เม.ย. โดยหาเตียงให้ผู้ป่วย 20 ราย รับสายจำนวน 245 ครั้ง ผู้ป่วย 157 คน เนื่องจากอาจมีสายซ้ำ มีการโทรเยี่ยมผู้ติดเชื้อทุกคน ส่วนสายด่วน 1330 สายด่วน สปสช. รับสาย 24 ชั่วโมงทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 11 เม.ย. มีคนโทรเข้ามาถึง 4,003 ราย ล่าสุดทางผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบหมายให้ศูนย์เอราวัณ เปิดสายด่วน 1669 จัดหาเตียงและส่งต่อผู้ติดเชื้อในพื้นที่กทม. คาดว่าเปิดระบบได้วันที่ 13 เม.ย.นี้ ดังนั้นการหาเตียงจะให้โทรสายด่วน 3 หมายเลขนี้ ส่วนการสอบถามอาการโรคให้โทรสายด่วน 1422

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีบางคนทราบผลบวก ระหว่างการรอรถมารับตัวนั้น จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า 1669 ศูนย์เอราวัณ จะมีการจัดรถมารับ แต่อาจจะต้องรอเวลา เพราะเคสเยอะ ขอให้ผู้ที่ตรวจพบการติดเชื้อฯ รออยู่ที่บ้าน โดยแยกตัวเด็ดขาดจากคนในครอบครัว และสวมหน้ากากอยู่เสมอ แต่หากใครมีรถประจำ และทราบสถานพยาบาลที่จะรองรับแล้ว สามารถสวมหน้ากาก ขับรถมาที่รพ.เองได้ โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา อย่างไรก็ตามมีอีกจุดหนึ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะได้รับรายงานว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งไปตรวจที่แล็บ ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อาจจะให้ผลไม่ตรง ดังนั้นก่อนจะไปรับการตรวจเชื้อ ขอให้ประชาชนตรวจสอบไปที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่ามีแล็บใดที่ได้รับการรับรอง แต่โดยหลักการไปตรวจที่รพ.จะชัดเจนกว่า ซึ่งเมื่อผลออกมาเป็นบวกจะส่ง sms ไปบอกประชาชนแจ้งให้รอการรับตัว อย่างไรก็ตามจากจะต้องมีการให้แล็บตรวจหาเชื้อผูกโยงกับรพ.ปลายทาง ให้มีความชัดเจนขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่ไปตรวจแล็บนอกนอกแล้วผลบวกก็ไม่รู้จะไปที่ไหน

เมื่อถามถึงกรณีดรามาว่ารพ.เตียงเต็ม ปล่อยผู้ติดเชื้อหารพ.เอง แต่มาทราบภายหลังว่า แท้จริงแล้วผู้ปกครองของทารกที่ติดเชื้อฯ ปฏิเสธที่จะอยู่ในห้องที่ทางรพ.จัดให้ เนื่องจากไม่สะดวกสบาย นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า “ถ้าออกมาดราม่าว่าต้องการความสะดวกสบาย ก็ต้องขอร้องจริงๆ ไม่อย่างนั้นบุคลากรทางการแพทย์เราก็ต้องมาเหนื่อยสองรอบ สามรอบ เราอยากดูแลความปลอดภัยชีวิตของท่าน ความปลอดภัยของทุกคน มากกว่าที่จะมาดูเรื่องความสะดวกสบาย ดังนั้นขอให้ประชาชนช่วยเข้าใจสถานการณ์ด้วยว่าตอนนี้ผู้ป่วยเยอะ ความสะดวกสบายก็อาจจะไม่ได้สะดวกสบายอย่างที่หวัง แต่รับรองว่าท่านจะปลอดภัย สถานพยาบาลที่เตรียมไว้ รพ.สนาม และฮอสพิเทล มีมาตรฐานทางการแพทย์ การอยู่รวมกับคนที่ติดเชื้อแล้วไม่ได้มีผลที่จะทำให้โรครุนแรงขึ้นแต่อย่างใด เพราะทุกคนที่อยู่ก็ล้วนเป็นคนติดเชื้อ แต่ได้รับการดูแลตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างดี

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img