วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกHighlightนายกฯขอคนไทยมั่นใจวัคซีน3ยี่ห้อ เหตุ“WHO-อย.”ให้การรับรองแล้ว!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯขอคนไทยมั่นใจวัคซีน3ยี่ห้อ เหตุ“WHO-อย.”ให้การรับรองแล้ว!!

“นายกฯ” ขอคนไทยมั่นใจวัคซีนโควิด 3 ยี่ห้อที่ไทยเลือกใช้ เหตุ WHO-อย. รับรองแล้ว พร้อมเร่งจัดหาวัคซีนต่างเทคโนโลยีเข้ามาอีก เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยจะได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย พร้อมเรียกประชุมคกก.ศบค.-ทีมแพทย์ทันที หลังครบกักตัว คาดถกรับมือเร่งด่วนหลังผู้ติดเชื้อ-ยอดตายยังพุ่งสูง

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ครบกำหนดการกักตัวและผลตรวจไม่พบการติดเชื้อโควิดนั้น นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยผู้ร่วมประชุม จะประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว สาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่นรมว.แรงงาน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการ กทม. ปลัด กทม. และผู้บัญชาการทหารสูงสุด

นอกจากนี้ยังมี อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) เลขาธิการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรมว.สาธารณสุข และหัวหน้าทีมจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เอกชน นพ.อุดม คชินทร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา จากรพ.ศิริราช นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ จากรพ.จุฬาฯ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา จากรพ.รามาธิบดี และศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน ไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมประชุมด้วย

ทั้งนี้คาดว่า เป็นการติดตามสถานการณ์และหามาตรการอย่างเร่งด่วน พร้อมความคืบหน้าการจัดหาวัคซีน ภายหลังผู้ติดเชื้อยังพุ่งสูงขึ้นทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,186 ราย และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 98 ราย

ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่รัฐบาลเร่งจัดหาให้เป็นวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนให้กับทุกคนที่อยู่ในประเทศทั้ง 3 ยี่ห้อในขณะนี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โดยที่ “แอสตราเซนเนก้า” และ “ซิโนแวค” เป็นวัคซีนหลัก และ “ซิโนฟาร์ม” เป็นวัคซีนทางเลือกนั้น ได้ขึ้นทะเบียนกับองค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยา และได้รับการยืนยันทางการแพทย์และนักระบาดวิทยาว่า มีประสิทธิภาพสามารถลดอัตราการเสียชีวิตและอัตราการเกิดอาการรุนแรงของผู้ติดเชื้อ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้มีแผนการนำเข้าวัคซีนต่างเทคโนโลยี อาทิ วัคซีน “ไฟเซอร์” และวัคซีน “โมเดอร์นา” ซึ่งเป็นเทคโนโลยี mRNA และวัคซีน “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Viral Vector Vaccine เช่นเดียวกับแอสตราเซเนกา ขณะที่ ซิโนแวค และซิโนฟาร์มเป็น Inactivated Vaccine เพื่อให้ความมั่นใจว่าทุกคนที่อยู่ประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและสามารถลดภาวะเจ็บป่วยรุนแรง

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนแอสตราเซเนกา เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ขณะที่วัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อ องค์การอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติเพื่อให้สามารถใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยแอสตราเซเนกา เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2564 ซิโนแวค 22 ก.พ.2564 และซิโนฟาร์มเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

“วัคซีนที่ไทยนำเข้ามาใช้ทั้ง 3 ยี่ห้อมีการใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยแอสตราเซเนกามีการใช้แล้วใน 118 ประเทศทั่วโลกขณะที่ซิโนแวคมีใช้ใน 37 ประเทศและซิโนฟาร์มมีการใช้ 56 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน (The Vaccine Alliance หรือ Gavi) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือระหว่างองค์กรรัฐและเอกชน ซึ่งมีทั้งองค์การอนามัยโลก (UNICEF) ร่วมเป็นสมาชิก มีแผนการจัดส่งวัคซีนกว่า 110 ล้านโดส จากซิโนฟาร์ม จำนวน 60 ล้านโดส และซิโนแวค ประมาณ 50 ล้าน ภายในปีนี้ เพื่อสนับสนุน COVAX ในการแจกจ่ายให้กับประเทศยากจนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความร่วมมือกันในระดับนานาชาติเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโวคิด-19 เพราะทุกประเทศรวมทั้งนายกรัให้ความสำคัญและเห็นสอดคล้องว่า วัคซีนยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับระบาดไปอีกอย่างน้อยใน 1-2 ปีข้างหน้า” นายอนุชา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img