วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWSจี้ฉีดไฟเซอร์ให้‘บุคลากรด่านหน้า’ก่อน กลุ่มเป้าหมายอื่นไม่จำเป็นยามวิกฤตินี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

จี้ฉีดไฟเซอร์ให้‘บุคลากรด่านหน้า’ก่อน กลุ่มเป้าหมายอื่นไม่จำเป็นยามวิกฤตินี้

อะไรไม่ตอบโจทย์ยามวิกฤติ ไม่ควรเอามาปนเมื่อทรัพยากรมีจำกัด “หมอธีระ” จี้ให้นำวัคซีนไฟเซอร์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อมีจำกัด ไม่สามารถทำให้ฝนตกทั่วฟ้าได้ จึงต้องเร่งให้ “บุคลากรด่านหน้าที่ติดเชื้อ” เป็นอันดับแรกสุด เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ยังไม่จำเป็นในยามวิกฤตินี้

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 1 สิงหาคม 2564…เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 525,539 คน รวมแล้วตอนนี้ 198,498,019 คน ตายเพิ่มอีก 8,564 คน ยอดตายรวม 4,232,083 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อเมริกา อินเดีย บราซิล อินโดนีเซีย และสหราชอาณาจักร, อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 50,018 คน รวม 35,743,144 คน ตายเพิ่ม 236 คน ยอดเสียชีวิตรวม 629,310 คน อัตราตาย 1.8%, อินเดีย ติดเพิ่ม 41,790 คน รวม 31,654,584 คน ตายเพิ่ม 542 คน ยอดเสียชีวิตรวม 424,384 คน อัตราตาย 1.3%, บราซิล ติดเพิ่ม 37,582 คน รวม 19,917,855 คน ตายเพิ่ม 925 คน ยอดเสียชีวิตรวม 556,437 คน อัตราตาย 2.8%, รัสเซีย ติดเพิ่ม 23,807 คน รวม 6,265,873 คน ตายเพิ่ม 792 คน ยอดเสียชีวิตรวม 158,563 คน อัตราตาย 2.5%, ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 23,471 คน ยอดรวม 6,127,019 คน ตายเพิ่ม 43 คน ยอดเสียชีวิตรวม 111,867 คน อัตราตาย 1.8%

อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร ตุรกี อาร์เจนติน่า โคลอมเบีย และสเปน ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น, แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่าสัดส่วนยังคงสูงถึงร้อยละ 82% ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน, ญี่ปุ่นนั้นทะลุหมื่นอย่างต่อเนื่อง (10,744 คน), เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ เวียดนาม ล้วนติดหลักพันอย่างต่อเนื่อง, แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน, แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านและอิรักที่ติดกันหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง, กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และไต้หวัน ติดเพิ่มหลักสิบ

วัคซีนไฟเซอร์ / @usembassybkk

…สถานการณ์ของไทยเรานั้น ขอให้ศบค.โปรดไตร่ตรองให้ดีเกี่ยวกับการนำวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคมาจากอเมริกาไปใช้ให้เกิด “ประโยชน์สูงสุด” ต่อสังคมไทย เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะต้องถามตัวเองว่าตอนนี้อะไรสำคัญที่สุด? อาวุธที่ได้มานี้ถือเป็นอาวุธที่ได้รับการยอมรับระดับสากลว่ามีประสิทธิภาพที่สูงและปลอดภัย ทั่วโลกล้วนอยากได้ เมื่อได้มา โดยมีปริมาณจำกัด จึงต้องใช้ให้คุ้มค่าเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติ ขณะนี้วิกฤติเกิดจากระบาดหนักมากยาวนาน จนทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศรับมือไม่ไหว

  1. บุคลากรด่านหน้าทั้งหลายล้วนติดเชื้อกันมากขึ้นเรื่อยๆ เสียชีวิตกันไปเรื่อยๆ และส่งผลให้ต้องปิดแผนกต่างๆ ในโรงพยาบาลกันเป็นทิวแถว ทำให้ยิ่งไม่สามารถดูแลผู้ป่วยที่รอรับการดูแลรักษาได้ เป็นผลกระทบแบบโดมิโน่ “เสียหนึ่งคนหรือหนึ่งทีม ส่งผลต่อหลายสิบ หลายร้อย หรือหลายพันชีวิต” ที่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญอันดับแรกสุด และสำคัญที่สุดของประเทศ การใช้วัคซีนที่ได้มา ก็จะช่วยคนได้จำนวนมาก เปรียบเหมือนยิงปืนครั้งเดียวได้นกหลายตัว
  2. คนเสียชีวิตมากขึ้น มาจากสองสาเหตุหลักคือ ระบบบริการทางการแพทย์ดูแลได้ไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอ ไม่ทันเวลา และผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยง เช่น สูงอายุ อ้วน หรือมีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้เกิดอาการรุนแรง ปัญหาที่สองนี้สำคัญรองลงมา เพราะเป็นระดับบุคคล หากส่งผลกระทบก็ส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวจากการสูญเสียคนที่รัก ถ้าป้องกันได้โดยใช้วัคซีนที่ดี ก็จะช่วยให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเค้าและครอบครัว

ส่วนเรื่องอื่นๆ แม้จะมองว่ามีความสำคัญ เช่น วิจัยหาสูตรต่างๆ ในการฉีดวัคซีน รวมถึงการจะนำวัคซีนไปให้บุคคลบางประเภทที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ และกันเผื่อไว้สำหรับส่วนกลางในการจัดการการระบาดเฉพาะที่นั้น หากพิจารณาให้ดี จะพบว่าเหตุผลต่างๆ ดังกล่าวนั้น ยังไม่น่าจะมีน้ำหนักความสำคัญเพียงพอที่จะแบ่งโควต้ามาใช้ในยามวิกฤติเช่นนี้

ขอเรียนย้ำให้พิจารณาอีกครั้ง ใช้อาวุธป้องกันที่ได้มานี้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ใช้อาวุธป้องกันที่ได้มานี้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง ตามที่วิเคราะห์ไว้ข้างต้น เพราะตอนนี้ประเทศเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ระบาดที่รุนแรง อะไรที่ไม่ตอบโจทย์วิกฤติ ไม่ควรเอามาปนเวลานี้ ยามที่ทรัพยากรจำกัด ไม่สามารถทำให้ฝนตกทั่วฟ้าได้ ควรให้ฝนไปตกอยู่ในที่ที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด และถึงเวลาที่ควรทบทวนกลไกนโยบาย และวิชาการ ว่าองค์ประกอบต่างๆ ที่มีอยู่นั้น จะปรับอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอให้เรามีกำลังใจ ฝ่าฝัน อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน ด้วยรักและห่วงใย สวัสดีวันอาทิตย์ครับ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img