วันเสาร์, พฤษภาคม 4, 2024
หน้าแรกHighlightหากคุมระบาดไม่ได้“การใช้ชีวิตปกติ” ไม่ใช่‘นิวนอร์มัล’-แต่เป็น‘แอบนอร์มัล’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หากคุมระบาดไม่ได้“การใช้ชีวิตปกติ” ไม่ใช่‘นิวนอร์มัล’-แต่เป็น‘แอบนอร์มัล’

“หมอธีระ” ยืนกราน โควิดระบาดในไทยยังรุนแรง กระจายทั่ว ชี้ถ้ายังคุมการระบาดไม่ได้ การใช้ชีวิตปกติไม่ใช่ “นิวนอร์มัล” แต่เป็น “แอบนอร์มัล” ยิ่งวันนี้ปลดล็อคหลายกิจการ-หลายกิจกรรม มีโอกาสสูงที่การระบาดจะทวีความรุนแรงขึ้น

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์แนวโน้มการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat…ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 1 กันยายน 2564…อเมริกาทะลุ 40 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 541,867 คน รวมแล้วตอนนี้ 218,438,933 คน ตายเพิ่มอีก 8,164 คน ยอดตายรวม 4,531,745 คน, 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร อิหร่าน และบราซิล, อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 107,356 คน รวม 40,058,129 คน ตายเพิ่ม 857 คน ยอดเสียชีวิตรวม 657,533 คน อัตราตาย 1.6%, อินเดีย ติดเพิ่ม 43,072 คน รวม 32,810,892 คน ตายเพิ่ม 462 คน ยอดเสียชีวิตรวม 439,054 คน อัตราตาย 1.3%, บราซิล ติดเพิ่ม 24,589 คน รวม 20,776,870 คน ตายเพิ่ม 770 คน ยอดเสียชีวิตรวม 580,413 คน อัตราตาย 2.8%, รัสเซีย ติดเพิ่ม 17,813 คน รวม 6,918,965 คน ตายเพิ่ม 795 คน ยอดเสียชีวิตรวม 183,224 คน อัตราตาย 2.6%, สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 32,181 คน ยอดรวม 6,789,581 คน ตายเพิ่ม 50 คน ยอดเสียชีวิตรวม 132,535 คน อัตราตาย 2%

อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อาร์เจนติน่า อิหร่าน และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย หลายต่อหลายประเทศติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 89.56 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น ติดเพิ่มกันหลักหมื่น ส่วนเมียนมาร์ ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา ลาว และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ

…ภาพรวมสถานการณ์ของโลก รายงานประจำสัปดาห์ขององค์การอนามัยโลก (WHO COVID-19 Weekly Epidemiological Update) ล่าสุด 31 สิงหาคม 2021 ระบุว่าไวรัสสายพันธุ์เดลต้านั้นระบาดไปถึง 170 ประเทศทั่วโลกแล้ว หากดูกราฟการระบาด ที่น่าสนใจคือ ระลอกนี้มีจำนวนติดเชื้อต่อวันพอๆ กับสายพันธุ์ G ซึ่งระบาดก่อนหน้าอัลฟ่ารอบที่แล้ว แต่จำนวนการเสียชีวิตต่อวันดูแล้วลดลง ประเมินโดยคร่าวราว 30% ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากทั้งเรื่องความรู้ทางการแพทย์ที่มากขึ้น ยา และวัคซีน อย่างไรก็ตาม จำนวนชีวิตที่สูญเสียก็ยังมากมายมหาศาล

…สถานการณ์ของไทยเรา จำนวนติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่อันดับ 29 ของโลก ขยับขึ้นมารวดเร็วมากจากอันดับร้อยกว่าในช่วงปลายปีก่อน ในขณะที่จำนวนการติดเชื้อใหม่ของเมื่อวานนี้ แม้จะลดลงกว่าเดิม แต่อย่างที่เคยวิเคราะห์ไปแล้วว่าสัมพันธ์กับจำนวนการตรวจที่ลดลงอย่างชัดเจน แม้กระนั้นจำนวนติดเชื้อใหม่ก็ยังรั้งอันดับ 10 ของโลกอยู่ดี

ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่เห็นนั้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการติดเชื้อแต่ละวันที่สูงติดอันดับโลก จำนวนชีวิตที่สูญเสียไปมากมายกว่าหมื่นคน ไม่ได้เป็นผลจากเชื้อโรคแต่เพียงอย่างเดียว แต่ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นย่อมต้องมาจากการวางแผนนโยบาย และมาตรการควบคุมป้องกันโรค การจัดซื้อจัดเตรียมจัดหาทรัพยากรที่จำเป็น รวมถึงหยูกยา และวัคซีนด้วย

ดังที่สามารถเห็นและเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่เจอมรสุมเดลต้าเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่เกิดขึ้นในอีกหลายต่อหลายประเทศนั้นแตกต่างจากไทย ไม่ว่าจะเป็นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง นิวซีแลนด์ หรือแม้แต่ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย และอื่นๆ นี่จึงสะท้อนให้เราเห็นความสำคัญของนโยบายและมาตรการ และการตัดสินใจ ว่าส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกคน

ยืนยันว่าสถานการณ์ระบาดในไทยยังรุนแรง กระจายทั่ว และเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การจะให้ใช้ชีวิตเสรีหรือให้คนยอมรับภาวะเช่นนี้ ไม่ใช่ “นิวนอร์มัล” แต่เป็น “แอบนอร์มัล” ตราบใดที่ยังคุมการระบาดไม่ได้ และระบบสนับสนุนที่จำเป็นไม่ได้มีศักยภาพหรือมีข้อจำกัด อาทิ ระบบตรวจคัดกรองโรค ระบบการดูแลรักษา รวมถึงหยูกยาและวัคซีน ทั้งในเรื่องปริมาณ การกระจาย และประสิทธิภาพที่จะรับมือกับสายพันธุ์กลายพันธุ์โดยพิจารณาถึงตัวชี้วัดทางคลินิกจริงตามกระบวนการวิจัยมาตรฐานสากล ทั้งการป้องกันการติดเชื้อ การลดป่วยรุนแรง และลดเสียชีวิต

วันนี้ปลดล็อคหลายกิจการ หลายกิจกรรม ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะทำให้คนจำนวนมากออกมาพบปะกัน ใกล้ชิดกัน สัมผัสกัน และใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานมากขึ้น มีโอกาสแชร์ของกินของใช้กัน หรือมีโอกาสที่จะไม่ได้ป้องกันตัว ผลกระทบที่จะตามมาก็ย่อมเป็นเรื่องการระบาดที่จะทวีความรุนแรงขึ้นได้

ใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก พบปะคนน้อยๆ ใช้เวลาสั้นๆ อยู่ห่างจากคนอื่นมากๆ เลี่ยงการกินดื่มในร้านอาหาร โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่า สุขาสาธารณะ ปิดฝาก่อนกดชักโครก ล้างมือทุกครั้ง และใส่หน้ากากเสมอ

คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้แยกจากสมาชิกในบ้าน และรีบทำการตรวจรักษา เดลต้า อาการคล้ายหวัด ไม่ว่าจะเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ขอให้คิดถึงโควิดด้วยเสมอ ด้วยรักและห่วงใย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img