วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlightสธ.เผยเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีน''คนท้อง'' หลังพบว่าฉีดวัคซีนแค่ 30 %
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.เผยเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีน”คนท้อง” หลังพบว่าฉีดวัคซีนแค่ 30 %

สธ.ห่วงหญิงตั้งครรภ์ทั่วไทย ฉีดวัคซีนแค่ 30 % เร่งดำเนินการฉีดเพิ่ม เน้น พื้นที่สีแดง-สีฟ้า  เปิดข้อมูลหญิงตั้งครรภ์ฉีดครบ 2 เข็ม ติดเชื้อแต่อาการไม่หนัก ไม่เสียชีวิต ส่วนคนปัดฉีดติดเชื้ออื้อ 

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผอ.สำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวว่า ในการระบาดของโควิดระลอก 3 มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อสูง 5,516 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. และปริมณฑล ภาคใต้ ในจำนวนนี้คลอดแล้ว 3 พันกว่าราย โดยผ่าคลอด 53% ในจำนวนนี้มีทารกติดเชื้อ 238 ราย เป็นการสัมผัสโดยตรงหลังคลอด คิดเป็น 7% ของจำนวนเด็กคลอด

ที่น่าเสียใจคือ 5-6 เดือนที่ผ่านมา หญิงตั้งครรภ์ เสียชีวิต 102 ราย ทารกเสียชีวิตตามแม่ 51 ราย ส่วนตัวเลขล่าสุดภายหลังการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ฉีดเข็ม 1 จำนวน 86,602 ราย เข็ม 2 จำนวน 66,784 ราย และเข็ม 3 จำนวน 1,009 ราย ทำให้จากที่เคยติดเชื้อสูง และเสียชีวิตสูงในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ก็พบว่าสถานการณ์ลดลงเรื่อย ๆ กระทั่งเดือน ต.ค. เสียชีวิตเพียง 10 ราย เดือนพ.ย. ติดเชื้อเหลือ 300 คน และยังไม่มีรายงานเสียชีวิต   

“สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิดทั้งหมดนั้น พบว่า 92 % ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเลยแม้แต่เข็มเดียว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าคนที่ฉีดครบ 2 เข็ม หรือ133 คนนั้น ไม่มีใครที่เสียชีวิตเลย และมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่มีปอดอักเสบต้อใส่เครื่องช่วยหายใจ แสดงให้เห็นว่าฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้ แต่ไม่มีอาการรุนแรง ปอกดอักเสบ และเสียชีวิตแต่อย่างใด” นพ.เอกชัย กล่าว

กระทรวงสาธารณสุข

ขณะนี้หลายเขตสุขภาพพยายามฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยภาคใต้พบว่ามีการฉีดวัคซีนได้มากขึ้น อาจะเพราะมีการระบาดเยอะ เช่น เขต 12 ฉีดได้เกิน 40% ขึ้นไป ปัตตานีฉีดได้ทะลุเป้าหมาย คือมากกว่า 75% เพราะมีการรณรงค์เชิงรุก แต่อีกหลายเขตฯ ทางภาคเหนือ อีสานยังฉีดในสตรีมีครรภ์น้อยอยู่

ทั้งนี้จากการคาดการณ์จำนวนหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 5 แสนคนต่อปี เมื่อตัดผู้ที่มีอายุครรภ์ 0-3 เดือนออกไป จะทำให้มีกลุ่มเป้าหมายอายุครรภ์ 3 เดือนขึ้นไปที่ต้องรับวัคซีนจำนวน 281,500 ราย ขณะนี้ฉีดเข็ม 1 เพียง 86,602 คน คิดเป็น 30.8% เท่านั้น ยังเหลืออีกกว่า 70%  ที่ต้องขอเชิญชวนให้เข้ามาฉีด เพราะหากไม่ฉีดแล้วเกิดการติดเชื้อจะเสี่ยงมีอาการรุนแรงได้ ขอยืนยันว่าวัคซีนที่รัฐจัดมาให้ฉีดนั้น เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และตอนนี้มีปริมาณเพียงพอ ไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดไหนสามารถขอรับวัคซีนได้  

 จากการสำรวจหญิงตั้งครรภ์ 2 พันคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน 65% หรือ 2 ใน 3 ยังกังวลถึงอันตรายต่อทารก ซึ่งมีงานวิจัยทั่วโลก และการฉีดในหญิงตั้งครรภ์ที่ผ่านมา เช่น อเมริกาฉีดเป็น แสนๆ ราย ยังไม่พบผลกระทบต่อทารก ส่วนไทยฉีด 9 หมื่นรายพบแท้ง 5 ราย ทารกเสียชีวิตในครรภ์ 5 ราย คิดเป็น 0.5% แต่พิสูจน์แล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัคซีน ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบอุบัติการณ์เกิดตามธรรมชาติที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน คือแท้งธรรมชาติ 10-15 % ดังนั้นได้ข้อสรุปว่าจะเร่งฉีดให้หญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่สีฟ้าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพื่อลดความเสี่ยง กรณีคนที่ยังกังวลและยังไม่ฉีดก็จะเร่งฉีดให้คนในครอบครัวให้ครบก่อน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img