วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWSรัฐบาลย้ำป้องกันตัวเองจากโควิดอย่างเคร่งครัด เร่งฉีดเข็มกระตุ้นเด็กโตเริ่ม 9 พ.ค.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รัฐบาลย้ำป้องกันตัวเองจากโควิดอย่างเคร่งครัด เร่งฉีดเข็มกระตุ้นเด็กโตเริ่ม 9 พ.ค.

“นายกฯ” ห่วงกลุ่ม Food Delivery/ส่งพัสดุ ย้ำป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด  และเตรียมพร้อมมาตรการคุมโควิดช่วงเปิดเทอม จัดระบบดูแลเด็กเล็กป่วยรุนแรง เร่งฉีดเข็มกระตุ้นเด็กมัธยมเริ่ม 9 พ.ค.

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมมีความห่วงใยกลุ่มผู้ขนส่งอาหาร (Rider) ผู้ส่งพัสดุ และวินมอเตอร์ไซค์  ซึ่งในช่วงสถานการณ์การโควิด-19 ทำให้ธุรกิจการสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่ (Food Delivery) และการสั่งซื้อของทางออนไลน์มีมากขึ้น  ทำให้กลุ่มไรเดอร์/วินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะคนกลางสำหรับการส่งต่ออาหาร/พัสดุ จากร้านค้าไปยังผู้บริโภค อาจเป็นอีกกลุ่มที่เสี่ยงต่อการรับหรือแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ 

นายกฯฝากเน้นย้ำให้เฝ้าระวังตนเองสูงสุด ปฏิบัติตนมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด  สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องตลอดเวลา  รอรับอาหารในจุดที่ร้านกำหนด  ทำความสะอาดมือและถุงมือก่อนและหลังการรับ-ส่งอาหาร   ฆ่าเชื้อกล่องบรรจุท้ายยานพาหนะทุกครั้งก่อนปฏิบัติงาน  งดรวมกลุ่มพูดคุย สูบบุหรี่ และเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ณ จุดพักคอย หากสงสัยว่ามีอาการ ก็ให้ตรวจสอบตนเองด้วย ATK พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด ขอให้ช่วยจัดพื้นที่เฝ้ารับสินค้าที่เหมาะสม ลดความแออัด เพิ่มความปลอดภัยสำหรับกลุ่มผู้ขนส่งอาหาร (Rider) และวินมอเตอร์ไซค์  ระวังรอรับสินค้าและอาหารด้วย

ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 สายพันธุ์โอไมครอน ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก และในระลอกเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของเด็กที่เสียชีวิตจากโควิด19 เป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่มีวัคซีนฉีด จึงขอให้ผู้ปกครองฉีดวัคซีนเพื่อลดการนำเชื้อสู่ลูกหลาน ขณะที่รัฐบาลได้จัดระบบดูแลผู้ป่วยเด็กเล็กไว้พร้อมแล้ว รวมถึงเตรียมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับเด็กระดับมัธยม ช่วงอายุ 12-17 ปี ผ่านระบบสถานศึกษาเริ่มพ.ค. และสถานพยาบาลเริ่มได้ทันที

น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า สำหรับการป้องกันดูแลกลุ่มเด็ก มีดังนี้ 1.เด็กเล็ก 0-5 ปี ที่ติดเชื้อและมีโรคอื่นร่วม กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบพร้อมให้การรักษาที่โรงพยาบาล ทุกเขตสุขภาพเตรียมความพร้อมเรื่องเตียง บุคลากร และระบบส่งตัวเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยเด็กที่มีอาการรุนแรง 2.เร่งรัดการฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 5-11 ปี ผ่านระบบสถานศึกษา และ3.ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่ม 12-17ปี ซึ่งคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค แนะนำให้เด็กกลุ่มนี้ที่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม เข้ารับวัคซีน Pfizer เข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ขนาดโดสปกติ หรือ ครึ่งโดส มีระยะห่างจากเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 4-6 เดือน ขึ้นไป โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดการให้บริการ การฉีดผ่านสถานศึกษา จะฉีดให้ในปริมาณครึ่งโดส เริ่มดำเนินการวันที่ 9 พ.ค.เป็นต้นไป และหากมีความประสงค์ต้องการฉีดเพิ่มอีกครึ่งโดส สามารถรับการฉีดได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และการฉีดผ่านสถานพยาบาล เด็กที่ประสงค์ฉีด เมื่อครบกำหนดรับเข็มกระตุ้น สามารถติดต่อขอรับบริการที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้ทันที จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ปริมาณครึ่งโดสหรือเต็มโดสก็ได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img