วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlightสธ.ยัน“สูตร 5+5”รักษาโควิด ผ่านการพิจารณาตามหลักวิชาการ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

สธ.ยัน“สูตร 5+5”รักษาโควิด ผ่านการพิจารณาตามหลักวิชาการ

“อนุทิน” ยันสูตร 5+5 รักษาโควิด ผ่านการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ “ปลัดสธ.” หวังถอดบทเรียนโควิด ดันเข้าระบบเซอร์วิสแพลน สาขารับมือโรคอุบัติใหม่

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65  ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการปรับแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิด สูตร 5+5 วัน คือ รักษาตัว 5 วันและสังเกตอาการ 5 วัน ว่า มติที่ประชุมศบค.เป็นมติที่ชอบด้วยกฎหมายและทางปฏิบัติ เพราะมีข้อมูลวิชาการสนับสนุน ผ่านการกลั่นกรองจากมติที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก ที่มีกรรมการวิชาการ การแพทย์ ตัวแทนจากกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมต่างๆ จาก สธ.แล้ว

อย่างไรก็ตาม แนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดมีการปรับปรุงมาต่อเนื่องตามสถานการณ์ ความรุนแรงของโรค ความพร้อมการรักษาพยาบาล ยารักษาโรค การบริหารวัคซีนป้องกัน ฉะนั้นทุกอย่างมีหลักตามวิชาการรองรับ ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของ รมว.สาธารณสุข หรืออธิบดีกรมควบคุมโรค หรือใครคนใดคนหนึ่ง กรณีมีบางจังหวัดพบการระบาดเล็กๆ นั้นก็ยืนยันว่าสถานพยาบาลมีความพร้อมรองรับ เวชภัณฑ์ ยา วัคซีนมีความเพียงพอ ส่วนการอนุญาตให้ซื้อยารักษาโควิดในร้านขายยาได้ เพื่ออำนวยความสะดวก แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์ แต่เรื่องการคุมราคานั้นไม่ได้อยู่ในอำนาจของสธ. เป็นไปตามกลไกลราคาของตลาดทั่วไป อยู่ที่ผู้ซื้อและผู้ขาย  

เมื่อถามถึงกรณีสหรัฐอเมริกา อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์รุ่น 2 แล้ว ไทยจะมีการหารืออย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เรามีวัคซีนสำหรับเป็นเข็มกระตุ้นอย่างเพียงพอ จึงขอให้ประชาชนมารับเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด ตอนนี้เรามีวัคซีนซิโนแวคที่ฉีดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ต่างประเทศมีการศึกษาวิจัยฉีดวัคซีนในเด็กเล็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว เราก็ได้ขอให้ผู้รับอนุญาตนำข้อมูลจากผู้ผลิตมาขึ้นทะเบียนขยายช่วงอายุกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

วันเดียวกัน ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service plan) พร้อมปาฐกถาพิเศษเรือง “ระบบสุขภาพ…ความคาดหวังในทศวรรษหน้า” ตอนหนึ่งว่า เป็นเวลากว่า 10 ปีที่มีการพัฒนาระบบเซอร์วิสแพลน ซึ่งต้องขอบคุณความร่วมมือของบุคลากรทุกคนจนพัฒนาระบบการให้บริการได้ 19 สาขา และเป็นกำลังใจให้ในการสู้ศึกใหญ่อย่างการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบ ระบบเซอร์วิสแพลน ตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่ได้หวังว่าต้องทำเป็นระบบเซอร์วิสแพลนโควิด-19 แต่น่าจะเป็นบทเรียนหนึ่งในการนำไปสู่การเพิ่มสาขาเรื่องการรับมือกับโรคอุบัติใหม่เพิ่มเติม.  

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img