วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlightใช้วิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส โพลหนุนลุงตู่'ปฏิรูปตำรวจ'
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ใช้วิกฤตโควิดให้เป็นโอกาส โพลหนุนลุงตู่’ปฏิรูปตำรวจ’

“ซูเปอร์โพล” ชู “นายกฯลุงตู่” ถือธงนำ “ปฏิรูปตำรวจ” ที่เป็นต้นเหตุแห่งปัญหาสารพัด ชี้น่าจะใช้วิกฤตโควิด วิกฤตสังคมเวลานี้ เป็นโอกาสในการ “ปฏิรูปงานตำรวจ” ให้กลายเป็นที่จดจำ

เมื่อวันที่ 16 ม.ค.64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “นายกฯกับงานตำรวจ” กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,675 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10-15 ม.ค.ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงปัญหาสำคัญที่ทำให้ตำรวจและหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ต้องเร่งแก้ไข พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 91.8 ระบุ “ยาเสพติด” เช่น เคนมผง ไอซ์ ยาบ้า ผงขาว ระบาดหนักในชุมชน สถาบันการศึกษา และ สถานบันเทิง รองลงมาคือร้อยละ 87.8 ระบุ “บ่อนพนัน” แหล่งแพร่โควิด ทำลายความสุขประชาชนหมดโอกาสช่วงเทศกาลความสุข บั่นทอนเสาหลักของสังคม ต้นตออาชญากรรมอื่น ๆ ร้อยละ 87.3 ระบุ “ขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้าเมือง” ฟอกตัวต้นตอแพร่โควิด ร้อยละ 86.1 ระบุ “อาชญากรรมออนไลน์” เช่น ล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ ล่อลวง คุกคาม พนันออนไลน์ มิจฉาชีพ ร้อยละ 85.3 ระบุ “ค้ามนุษย์” ทั้งที่สมัครใจและไม่สมัครใจ แรงงานบังคับ เป็นต้น

เมื่อถามถึงการรับรู้ของประชาชนต่อปัญหาการทำงานของตำรวจ ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.0 ระบุมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ที่ทำให้ต้องเร่ง “ปฏิรูปตำรวจ” เช่น ร่วมกับหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ช่วยผู้ต้องหา ผู้มีฐานะร่ำรวย พ้นผิดคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ต้นตอความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม การแสวงหาผลประโยชน์จากบ่อนพนัน ขบวนการฟอกตัวแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ยาเสพติด ฯลฯ ต้นตอการแพร่โควิด ทำประชาชนทุกข์ยากเดือดร้อน ในขณะที่ ร้อยละ 2.0 ไม่ระบุ

ที่น่าพิจารณาคือ ความคิดเห็นต่อการปฏิรูปตำรวจ ต้นตอและวิธีการแก้ไข พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.9 เคลือบแคลงสงสัย ตำรวจซื้อขายตำแหน่ง รับสินบน ทุจริตต่อหน้าที่ ร้อยละ 98.7 ระบุ นายกรัฐมนตรีควรหา “ผู้นำหน่วย” ที่พร้อมร่วมมือปฏิรูปตำรวจมาทำงาน ร้อยละ 98.3 ระบุการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูปตำรวจ ร่วมปฏิบัติตามกฎหมาย เคร่งครัด ร้อยละ 95.8 ระบุ นายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จำเป็นต้องถือธงนำ ปฏิรูปตำรวจ

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.2 เชื่อมั่นต่อ นายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะสามารถปฏิรูปตำรวจสำเร็จ ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำ เสริมสร้างศรัทธาของประชาชนต่อตำรวจ ในขณะที่ร้อยละ 3.8 ไม่เชื่อมั่น นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.6 เห็นด้วยที่ ช่วงวิกฤตโควิด คือ จังหวะเวลาเหมาะสมของนายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เร่งปฏิรูปตำรวจ เพื่อยับยั้ง ปัญหาซ้ำซาก ในอนาคต

ภาพ/www.thaigov.go.th

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “วิกฤตคือโอกาส” ที่ไม่ใช่โอกาสของตำรวจ แต่เป็นโอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่นอกจากมีผลงานทำให้เกิดการรับรู้ (Perception) ในหมู่ประชาชนว่า เคยเข้ามาบริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีและมีผลงานต่าง ๆ จำนวนมาก แต่ยังเป็นผลงานในระดับการรับรู้ที่นายกรัฐมนตรีน่าจะใช้ วิกฤตโควิด วิกฤตสังคมเวลานี้เป็นโอกาส “ปฏิรูปงานตำรวจ” กลายเป็นที่จดจำ (Remarkable) ของการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่รักของประชาชน ทำให้เสาหลักของชาติเป็นที่รักของประชาชนจากรุ่นสู่รุ่น มากกว่า ผลงานของนายกรัฐมนตรีในอดีตที่เข้ามาและก็ออกไปโดยมีผลงานที่อยู่ในระดับของการรับรู้และเข้าใจเท่านั้น ดังนั้น วิกฤตนี้คือโอกาสของนายกรัฐมนตรีทำให้เกิดความทรงจำที่ดีในหมู่ประชาชน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของกระแสการปฏิรูปตำรวจ เอแบคโพลเคยมีการสำรวจพบมาแล้วในปี พ.ศ.2550 โดยสอบถามกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เช่น ประชาชนผู้สัมผัสงานตำรวจระดับสถานีทั่วประเทศ 10 กองบัญชาการ ประชาชนทั่วไป กลุ่มนักวิชาการรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์และกลุ่มข้าราชการตำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 70 ของประชาชนทั่วไปต้องการให้มีการปฏิรูปงานตำรวจ แต่เวลาผ่านมากว่า 10 ปี ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่กว่าร้อยละ 90 ของประชาชนทั่วไปต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ

“จึงสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ผู้มีอำนาจรัฐ น่าจะนำไปพิจารณาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่รักของประชาชน เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ต้นน้ำและลดความเคลือบแคลงสงสัยว่า ทุจริตต่อหน้าที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยอื่น ๆ กระทรวงอื่นในหลายจังหวัดของประเทศ ทั้งเรื่องบ่อนพนัน แรงงานเถื่อน ยาเสพติด แหล่งมั่วสุม จนกลายเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ ทำลายความสุขของประชาชนทั้งประเทศช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ดังนั้นนายกรัฐมนตรีขู่หรือปรามขบวนการเหล่านี้อย่างเดียวไม่น่าจะเพียงพอ เพราะมันแค่หลบ ไม่ได้หมดไป นายกรัฐมนตรีจึงน่าจะถือธงนำปฏิรูปตำรวจตามที่ประชาชนไว้วางใจและเชื่อมั่นจากข้อมูลผลสำรวจครั้งนี้” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img