ศาลอุทธรณ์เลื่อนฟังคำพิพากษาคดีนปช. ก่อการร้าย 9 ม.ค.หลังจำเลยมาไม่ครบ
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2542/2553 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นพ.เหวง โตจิราการ , นายก่อแก้ว พิกุลทอง , นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก , นายอริสมันต์ หรือกี้ พงษ์เรืองรอง แกนนำและแนวร่วม นปช.รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1-24
ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวม 6 ข้อหา กรณีพวกจำเลยได้ยุยงปลุกปั่นประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 20 พ.ค. 2553 เพื่อกดดัน ต่อต้านรัฐบาล และบังคับขู่เข็ญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ประกาศยุบสภา ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จากที่พนักงานอัยการยื่นอุทธรณ์ไปรับรายงานว่าอาจจะมีการเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไป หรือไม่โดยมีปัจจัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากจำเลยที่มาไม่ครบ ศาลอาจต้องให้เวลาเเละออกหมายจับถ้าหากศาลเขื่อว่าได้รับหมายเเล้วไม่มาตามนัด ต่อมาศาลเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 9 ม.ค.2566
อย่างไรก็ตามคดีศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ยกฟ้องทุกข้อหา เห็นว่า เป็นการต่อสู้ทางการเมือง ไม่ใช่เป็นการก่อการร้าย