“ปชป.” ร้าวหนัก “อิสระ สมชัย” อีกหนึ่งขุนพลอีสาน จี้ผู้ใหญ่ในพรรคต้องหันมาทบทวน และมองถึงปัญหาภายใน หลังมือดีเกรดเอดาหน้าลาออก ไล่ตั้งแต่ “หมอปรีชา-กรณ์-พีระพันธุ์” จนมาถึงรายล่าสุด “วิฑูรย์” ย้ำอยากให้ดูภาพรวมทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะภาคใดภาคหนึ่ง
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.64 นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แสดงความเห็นกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตส.ส.อุบลราชธานี, อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน และอดีตรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) ว่า ได้รับข่าวลาออกจากทางไลน์ แต่นายวิฑูรย์เคยปรารภกับตนมาแล้ว เริ่มตั้งแต่สมัครรับเลือกตั้งปี 62 ตอนนั้นนายวิฑูรย์ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน แต่ถูกจัดบัญชีรายชื่อลำดับค่อนข้างไกล (อันดับ 40) นอกจากนี้ยังมีประเด็นเท้าความกันว่า หลังเลือกตั้งให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค ต่อมาหลังการเลือกตั้ง ปชป.แพ้ราบคาบ มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายวิฑูรย์ทุ่มเทช่วยนายจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฏ์) ตนไม่ได้ช่วยนายจุรินทร์ ตนหนุนนายพีระพันธุ์ (สาลีรัฐวิภาค) ก็เป็นเรื่องภายในพรรค เป็นธรรมชาติการเลือกจั้ง
“พอผลออกมา นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรค นายวิฑูรย์ก็คิดว่าจะได้รับการดูแลจากพรรค ข้อตกลงเป็นอย่างไร ผมไม่ทราบ ผมไม่รู้เรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ข้อตกลงระหว่าง “นายวิฑูรย์-นายจุรินทร์-นายเฉลิมชัย (ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป.) ตกลงอะไรก็ไม่ทราบ ได้ยินเพียงว่า ทำไมไม่ได้เป็นรองหัวหน้าพรรค ขอเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีก็ไม่ได้ คงมีความน้อยใจ พรรคไม่ให้ความสำคัญ ก็เคยปรารภกับผม ถ้าเป็นแบบนี้คงหาที่ยืนใหม่ ไม่คิดว่าจะจริงจัง ก็ให้กำลังใจ อย่าคิดอะไรมาก ผมกับนายวิฑูรย์ เป็นส.ส. 8 สมัยเท่ากัน เป็นสส.ต่อเนื่อง นายวิฑูรย์เป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือเพื่อนฝูงตลอด”นายอิสระกล่าว
นายอิสระ กล่าวต่อว่า พรรคต้องมาทบทวนแล้ว ไม่ใช่เฉพาะนายวิฑูรย์เท่านั้น มีถ้อยคำในข้อที่เขียนถึง ส.ส.เอ คือนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี หลานชายด้วย ว่าถ้าจะไปอยู่ที่ไหน ก็มีพรรคอื่นยินดีต้อนรับ โดยนัยยะ คงไม่ใช่เฉพาะนายวิทูรย์ หลานชายคงไปด้วย ก็ไปด้วยกัน แต่ตนไม่ทราบว่า จะไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
“ผู้บริหารคงรู้ปัญหาพอสมควร อยากให้มองภาพรวม อย่ามองเฉพาะอีสานอย่างเดียว ต้องดูทั่วประเทศ ภาคเหนือ หมอปรีชา มุสิกุล อดีตส.ส.กำแพงเพชร 6 สมัย ก็ลาออกเหมือนกัน คุณกรณ์ (จาติกวณิช) คุณพีระพันธุ์ (สาลีรัฐวิภาค) ก็ไปแล้ว ระดับเกรดเอทั้งสิ้น ผู้ใหญ่ในพรรคต้องมาทบทวน“นายอิสระกล่าว
สำหรับนายวิฑูรย์ ได้เขียนความในใจส่งเข้าไปในไลน์เพื่อนส.ส.ปชป.บางส่วนที่ใกล้ชิด โดยมีใจความว่า “เป็นนักการเมืองมา 30 ปี ตั้งใจว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถึงวันนี้ได้ไตร่ตรองทบทวนแล้ว เลยตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยเหตุผลดังนี้ คือ
1.การเลือกตั้งครั้งล่าสุด ขณะนั้นตนยังเป็นรองหัวหน้าพรรค ควรจะได้ลงบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ แต่พรรคให้อยู่ลำดับที่ 40 ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางได้เป็น สส.
2.ตนไม่มีที่ยืน และไม่มีตำแหน่งอะไรที่พรรคมอบให้ ตนอายุ 62 ปียังมีไฟ ยังอยากทำงานการเมืองต่อไป และเชื่อว่าคนอุบลราชธานี ยังให้โอกาสเลือกพวกเรา
3.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เคยตกลงกับตนว่าจะให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี สุดท้ายก็ไม่ได้เป็น
4.หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เคยรับปากว่าจะให้นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นหลานชาย เป็นประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ แต่สุดท้ายก็ใช้มติโหวตในที่ประชุมพรรค โดยทั้งสองคนไม่ได้ช่วยอะไร ผลโหวตก็เป็นที่รู้กันว่าส.ส.ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนใต้ นายวุฒิพงษ์เลยได้เป็นเพียงแค่ประธานคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ
5.ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ความสำคัญกับส.ส.อีสาน
6.นายวุฒิพงษ์และตนจะไปอยู่พรรคใด ก็เชื่อว่าประชาชนคนอุบลฯยังจะให้โอกาส
7.ตนยังจะเป็นนักการเมืองต่อไป โดยไปสังกัดพรรคอื่นที่เขาให้เกียรติและให้โอกาสทำงานการเมืองต่อไป
“ผมยังรักและคิดถึงเพื่อนๆที่ยังอยู่พรรคประชาธิปัตย์และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกัน แม้จะอยู่คนละพรรค บุคคลที่ผมให้เกียรติ เกรงใจ เคารพนับถือมากที่สุด คือท่านชวน หลีกภัย เคารพและศรัทธาไม่เปลี่ยนแปลงครับ” นายวิฑูรย์ ระบุ
