“ชวน” บอกคิดไม่ถึงส.ว.จะเลียนแบบส.ส.ไม่แสดงตนเป็นองต์ประชุมทำสภาฯ ล่ม ไม่อยากเปิดช่องด่ากลางสภา เดินหน้านัดประชุมต่อ 6-7 ก.พ.
วันที่ 27 ม.ค.66 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราฎร ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์สภาล่มต่อเนื่องว่า ความจริงได้ขอร้องส.ส.ว่าในช่วงสุดท้ายปลายสมัยประชุมสภา สามารถพิจารณาเรื่องสำคัญให้ผ่านไปได้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือส.ว.ก็เป็นไปด้วย คือไม่กดบัตรแสดงตน เพื่อไม่ให้ครบองค์ประชุม เดิมเข้าใจว่า มีความเข้าใจข้อบังคับและวาระผิด แต่ตอนหลังส.ว.บางคนได้มาบอกว่าไม่อยากจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกฎหมายที่จะด่าเขา จึงหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ต้องบรรจุวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ดี คาดว่าจะนัดประชุมร่วมรัฐสภาในสัปดาห์ก่อนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ประมาณวันที่ 6-7 ก.พ.ซึ่งนายพรเพชร เห็นด้วย
เมื่อถามว่า การหารือกับวิป 3 ฝ่าย เมื่อวันที่ 19 ม.ค. เรื่องการเลื่อนวาระการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาแต่สุดท้ายก็มีปัญหา นายชวน กล่าวว่า ไม่มี ตอนแรกตนเข้าใจว่า ส.ว.เข้าใจผิด แต่ที่จริงส.ว. ไม่อยากประชุมเรื่องนี้ เนื่องจาก เป็นกฎหมายที่จะไปโจมตีส.ว. เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประเด็นเดียวคือ การลดอำนาจและบทบาทของส.ว.ลงมา ทำให้ส่วนหนึ่งไม่อยากประชุมเรื่องนี้
เมื่อถามว่า หากนัดประชุมร่วมรัฐสภาอีก แล้วองค์ประชุมไม่ครบจะทำอย่างไร นายชวน กล่าวว่า เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็จะเหมือนเดิม วิธีปฏิบัติของสมาชิกเพื่อไม่ให้ครบองค์ประชุม อาจจะใช้ได้ในบางเรื่อง เช่น รัฐบาลเอาเสียงข้างมากไปแกล้ง แต่หากไม่ชอบกฎหมายฉบับใดแล้วทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ค่อยทำกัน ตนได้เตือนส.ส.ไปแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับส.ว.ด้วย จึงขอความร่วมมือถึงแม้จะรู้ว่ายาก การประชุมล่มเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าไม่ควรเพราะเป็นวาระเพื่อทราบ แต่นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ขอนับองค์ประชุม ทั้งที่ประเด็นไม่ต้องใช้การลงมติ นอกจากนี้ มีหน่วยงานที่มารอชี้แจงต้องเสียเวลาจนต้องไปขอโทษเพราะเวลาทุกคนมีค่า
เมื่อถามว่า มองว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาเป็นการล้างแค้นของฝ่ายค้านหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ก็คงจะเป็นอย่างนั้นด้วย และกระทู้ถามสดถูกเลื่อนออกไปทั้งหมด ยกเว้นกระทู้ถามแยกเฉพาะที่ผมเป็นประธาน ไม่ถูกเลื่อนเลย ทั้งนี้ ผมไม่แน่ใจว่าทำไมนายกฯหรือรัฐมนตรีจึงไม่มาตอบกระทู้ในสภา
เมื่อถามถึงการวางกรอบการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15-16 ก.พ. นายชวน กล่าวว่า การอภิปรายมาตรา 152 ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมีการพูดพาดพิงถึงญาตินายกฯ อีกฝ่ายหนึ่งสามารถโต้ตอบได้ ซึ่งมีข้อบังคับคอยควบคุมไว้จึงต้องระวัง แต่ในมุมหนึ่งฝ่ายรัฐบาลจะได้มีโอกาสชี้แจงบางเรื่อง ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจได้ ซึ่งทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านตกลงกันว่าจะอภิปราย 2 วัน รวมเวลา 32 ชม. ฝ่ายค้าน 24 ชม. ฝ่ายรัฐบาล 8 ชม. แต่รัฐมนตรีบางคนอาจจะไม่ชอบใจ เพราะอยากจะพูดมากกว่านั้น ต้องไปบริหารจัดการเอง
