วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกNEWS5 ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกนายฯที่ต้องการ “โพล”ชี้ผลงาน-ประสบการณ์ต้องจับต้องได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

5 ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกนายฯที่ต้องการ “โพล”ชี้ผลงาน-ประสบการณ์ต้องจับต้องได้

“ซูเปอร์โพล” ชี้ 5 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน ในการเลือก “นายกรัฐมนตรีที่ต้องการ” มีความหลากหลาย แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มและฐานของ “ผู้นำการเมือง” แต่ละคน ย้ำ “ผลงานและประสบการณ์ที่จับต้องได้” ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนคือปัจจัยสำคัญ

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.66 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจเรื่อง “นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,850 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-9 เม.ย.66 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

ที่น่าพิจารณาคือ 5 อันดับปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 57.2 ได้แก่ ปัญหาเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังเจอ อันดับที่สอง หรือร้อยละ 52.5 ได้แก่ นโยบายที่พรรคการเมืองเสนอและทำได้จริง อันดับที่สาม หรือร้อยละ 44.1 ได้แก่ ผู้นำการเมือง แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 40.3 ได้แก่ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และอันดับที่ห้า หรือร้อยละ 38.0 ได้แก่ พรรคการเมือง

ที่น่าสนใจคือ นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการในมิติต่าง ๆ พบว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ชอบนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 78.6, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์แก้ปัญหาธุรกิจ วิกฤตเศรษฐกิจได้ร้อยละ 73.8, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 73.2, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่จิตใจดีไม่เป็นเหตุขัดแย้ง ร้อยละ 67.2

นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังได้ใจกลุ่ม อสม. คนที่เห็นผลงานแก้วิกฤตโควิด นโยบายสุขภาพ ร้อยละ 62.3, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวของตัวเอง ร้อยละ 59.2, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถสื่อสาร ภาษาอังกฤษ ได้ดี ร้อยละ 52.4, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองจากภาพจำในอดีต ร้อยละ 50.0 และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ใจกลุ่มคนที่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่อายุไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ร้อยละ 47.7

รายงานของซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ความต้องการของประชาชนที่มีต่อผู้นำการเมืองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มและฐานของผู้นำการเมืองแต่ละคน การตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนให้ตรงกลุ่มเป้าหมายตรงเป้าครอบคลุม ทั้งความต้องการและพื้นที่จึงเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเฉพาะผลงานและประสบการณ์ที่จับต้องได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนมาเป็นอันดับแรกในสิ่งที่ค้นพบในการสำรวจครั้งนี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img