วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกNEWS‘หมอระวี’แนะคนไทยคิดให้ดีก่อนเข้าคูหา อย่าเลือกนโยบายประชานิยม-หวั่นชาติล่มจม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘หมอระวี’แนะคนไทยคิดให้ดีก่อนเข้าคูหา อย่าเลือกนโยบายประชานิยม-หวั่นชาติล่มจม

“หมอระวี” แนะคนไทยคิดให้ดีก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง เตือนอย่าเลือกนโยบายประชานิยม หวั่นเกิดวิกฤตเศรษฐกิจซ้ำรอยอาร์เจนตินา กรีซ เวเนซุเอลา

วันที่ 19 เม.ย.2566 เวลา 11.00 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า”เลือกประชานิยม จะพาล่มจมถ้วนหน้า”โดยการรณรงค์ในสนามเลือกตั้ง 2566 พรรคต่างๆ พากันรณณรงค์ใช้เงินภาษีราษฎร มาพร่าผลาญ แจกจ่าย แบบให้ฟรี เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เลือกพรรคเหล่านั้น เข้ามากุมอำนาจรัฐ ในการจัดตั้งรัฐบาล

“ผมร้องขอให้ประชาชน ได้ยับยั้งชั่งใจ และตั้งสติ ไตร่ตรองให้จงหนักในการเลือกพรรคที่เสนอแนวทางประชานิยม เพราะมีผลเชิงประจักษ์ จากประสบการณ์อันเลวร้ายของประเทศอื่นๆที่เลือกใช้ระบอบนี้ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น กรีซ อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา ฯลฯ ที่เกิดของวิกฤตเศรษฐกิจขั้นรุนแรง อย่างต่อเนื่องตามมา จนเวลาผ่านไปหลายปีแล้ว ประเทศทั้งสามยังตกยู่ในสภาพร่อแร่ จมจ่อมกับความยากจน ถ้วนหน้า และยังหาทางออกไม่ได้ ผมไม่ต้องการให้พวกเรามองการเลือกตั้งแบบ โจทย์ชั้นเดียว คือมองมุมบวก อย่างเดียว แต่เราต้องศึกษาบทเรียน และบาดแผล ของชาติอื่นๆ ที่ไปเลือกทางเดินผิด เข้าไปติดกับ ตืดบ่วง “โลกสวย “ แต่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกของความเป็นจริง ด้วย”

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ผมและทีมงาน ได้ศึกษา ผลลัพธ์โดยรวม ของนโยบายประชานิยม ของทั้งสามประเทศ ที่เกิดในสภาพเดียวกัน(และเป็นแนวโน้มของประเทศไทย ถ้าประชาชนเลือกพรรคที่เสนอให้ใช้เงินงบประมาณ มาแจกจ่ายให้ฟรี ) นี่คือการถอดบทเรียน ครั้งสำคัญ ก่อนที่เราจะตกลงไปในบ่วงบาศก์ของวงจรอุบาทว์ “ ประชานิยมเคลือบยาพิษ”

1.ทุกประเทศข้างต้น ตกอยู่ในสภาวะรัฐล้มเหลว การล่มสลายของระบบเศรษฐกิจการเงิน รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลที่ล้มละลาย จากการไม่มีวินัยทางการเงินการคลัง เสียสมดุล และจมอยู่กับการก่อหนี้สาธารณะเกินตัว เมื่อกู้แล้วก็ไม่มีเงินสด ไม่มีรายได้ไปขำระหนี้ จำเป็นต้องกู้เพิ่ม เป็นวงจรที่หนี้สาธารณะสะสมซ้ำซาก อย่างต่อเนื่อง

2.เงินเฟ้อ ในอัตราค่าของสกุลเงิน ทรุดต่ำลง เช่น ปี 1989 เงินเฟ้อของอาร์เจนตินา ที่พุ่งไปถึง 3,046%  แต่เทียบไม่ได้กับเงินเฟ้อของเวเนซุเอลา ค่าเงินลดลงมาก และรุนแรงที่สุดในโลกคือปี 2016 ที่เกิดวิกฤต อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 254% ซึ่งพอรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยการพิมพ์ ธนบัตรใหม่ ใช้เอง อัตราเงินเฟ้อก็พุ่งทะยานระดับประวัติศาสตร์ในปี 2018 คืออยู่ที่ 1,300,000% จนรัฐบาลต้องเปลี่ยนสกุลเงินจากโบลิวาร์แบบเก่าเป็นโบลิวาร์แบบใหม่ (Sovereign Bolivar)

  1. ผลกระทบของการตกงาน เงินเฟ้อ ( เงินด้อยค่า ) เงินฝืด (ไม่มีเงินหมุนเวียนในตลาดหรือมีน้อยมาก ) ทำให้เงินหายาก แต่เวลาจ่าย ในชีวิตประจำวัน ต้องใช้เงินเป็นฟ่อน ค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นร้อยเท่า พันเท่า อาหาร ยา น้ำดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ขาดแคลน และราคาแพงจัด เกิดความอดอยาก ลำบากยากแค้น ประชาชนตกงาน คุณภาพชีวิต ตกต่ำ ไร้การศึกษา คนมีความเท่าเทียมกันเพียงสถานะเดียว คือ จนกับจน การเอาเปรียบ และความเห็นแก่ตัว เพื่อความอยู่รอด ประชาชนหมดหวัง ไม่มีอนาคต

4.ประเทศเหล่านี้มีส่วนที่เหมือนกัน ที่เลือกนโยบาย ผิดทาง คือเลือกประชานิยม ผลที่เกิดกับประเทศ ภายในสองสามวงจรของการเลือกตั้ง ก็คือ นักประชานิยม จะสร้างกลไกที่ไม่สามารถหรือไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ มีการใช้อิทธิพลสร้างวงจรคอรัปชั่น ชะตากรรมของประชาชนในประเทศเหล่านี้ สภาวะตกงาน เงินไร้ค่า ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีนำไปสู่ การเดินขบวนประท้วง การจราจล การปล้นสะดมภ์ การเผาทำลาย สิ่งของและสถานที่ ทั่วประเทศ

  1. ประชาชนตัดสินใจหนีไปตายดาบหน้า : สหประชาชาติรายงานว่ามีการอพยพจากเวเนซุเอลาไปประเทศข้างเคียง จำนวน 5,600,000คน (According to the United Nations, as of 2021) ซึ่งแสดงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะสองปีที่ผ่านมา
  2. จะเห็นได้ว่าประเทศต้นแบบเหล่านี้อันได้แก่ อาร์เจนตินา กรีซ เวเนซุเอลา ต้องใช้เวลาอีกหลายปีทีเดียวในการฟื้นฟูเครดิตของตัวเอง เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการสร้างฐานเศรษฐกิจให้เข้มแข็งกว่านี้ แต่ ณ เวลาปัจจุบันพวกเขายังต้องต่อสู้ดิ้นรนอีกไกล สิ่งเหล่านี้ ได้เกิดขึ้นจริงในประเทศ ที่ถูกใช้เป็นตัวแบบ ที่ชัดเจน ของความล้มเหลวในนโยบายประชานิยม ระดับโลกมาแล้ว

“พรรคพลังธรรมใหม่ จึงเห็นว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ให้เลือกพรรคใหญ่เพื่อเอาชนะกันเอง ไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเสนอนโยบายประชานิยม ที่เป็นตัวอย่างที่ผิดพลาดเป็นนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อ ความรั่วไหลของงบประมาณของชาติ และ สุ่มเสี่ยงต่อการก่อหนี้สาธารณะในอนาคต สิ่งเหล่านี้ชี้ชัด ว่า ประชาชนมีความสุ่มเสี่ยงที่จะตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับประชาชนของประเทศทั้งสาม ผมหวังว่าทุกท่านจะเพิ่มวิจารณญาณในการเลือกตั้งอย่างเต็มสติปัญญา นำพาชาติเราเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของนานาอารยประเทศได้อย่างงดงาม”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img