“สุวัจน์” หนุนพรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล ลั่นชพก.เล่นการเมืองตามกติกา นิยมประนีประนอม หันหน้าเข้าหากัน ลดขัดแย้ง จี้ “กกต.” จัดเลือกตั้งเป็นธรรมทุกฝ่ายหวั่นมีผลกระทบกับความเชื่อมั่นผลเลือกตั้ง
วันที่ 28 เม.ย.2566 เวลา 16.30 น.ที่ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราขสีมา
ก่อนการขึ้นปราศรัย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้สักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนครราชสีมา พร้อมชูดาบเอาฤกษ์เอาชัยก่อนขึ้นเวทีปราศรัใหญ่
จากนั้นนายสุวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยว่า ชาติพัฒนากล้า มีความผูกพันกับคนโคราช และพร้อมรับใช้ประชาชนชาวโคราช ซึ่งเราทำงานกันมาอย่างต่อเนื่อง มีผลงานและสร้างความเจริญให้แก่ชาวโคราชมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อประเทศไทยมีวิกฤต เราก็อาสามาแก้วิกฤต เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นเนื่องจากเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียว ที่ได้ออกแบบนโยบายเศรษฐกิจ ให้กับคนโคราชโดยเฉพาะ เรียกว่าโคราชโนมิค หรือโคราชนิยม ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจอยู่ท้อง สร้างเมืองโคราชให้เป็นเมืองการลงทุน ในอนาคตอย่างยั่งยืน ดังนั้นตนมั่นใจว่านโยบายของชาติพัฒนากล้า ผลงานของพรรคที่มีอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคชาติพัฒนากล้าต้องกลับมาอยู่ในความนิยมของชาวโคราช และเป็นพลังทางการเมืองในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นกับชาวโคราช
เมื่อถามว่าชาติพรรคชาติพัฒนากล้า ได้มีการตกลงกับพรรคการเมืองอื่นในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกับใคร แต่เรามีจุดยืนว่าต้องช่วยให้รัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปได้ ไม่ขัดแย้ง มีความชอบธรรม ให้เกิดความร่วมมือกันทางการเมือง ซึ่งจะเห็นว่าก่อนยุบสภา มีปัญหาสภาล่มทำให้ไม่สามารถทำงานได้ สะท้อนให้เห็นว่าการเมืองไม่มีเสถียรภาพ ทำให้การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองไม่สามารถทำได้ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าสามารถเข้าได้กับทุกฝ่าย เป็นตัวช่วยที่จะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง เราไม่สร้างปัญหาแต่จะช่วยแก้ปัญหา และอยากเริ่มต้นทางการเมืองที่ชอบธรรม พรรคการเมืองไหนที่ชนะเลือกตั้งและได้เสียงเป็นอันดับ 1 เราก็จะมอบสิทธิ์ในการตั้งรัฐบาลให้กับพรรคการเมืองนั้น เพราะเป็นพรรคที่ประชาชนตัดสินและมอบฉันทามติ จัดตั้งรัฐบาลก่อน ดังนั้นจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้ายึดเสียงของประชาชนเลือกเป็นหลัก หากเรายึดถือแบบนี้ก็จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความชอบธรรม ประเทศก็จะมั่นใจ รัฐบาลก็จะมีเสถียรภาพ จะทำให้การแก้ไขปัญหาของประเทศใน 4 ปีข้างหน้า ทำให้ประชาชนมีความหวัง
เมื่อถามว่าช่วงนี้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันแล้ว นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทุกคนก็ไม่อยากให้มี เพราะการใช้เงินซื้อเสียงจะทำให้ไม่ได้คำตอบที่ถูกต้อง ไม่รู้ว่าใครจะชนะเลือกตั้งและใครจะได้เป็นส.ส. เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. จะจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากจะเป็นปัญหาต่อระบอบประชาธิปไตย และจะทำให้พรรคการเมืองถูกกล่าวหาว่าได้มาเพราะการซื้อเสียง จะทำให้ขาดความชอบธรรม เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่ามองบรรยากาศในการหาเสียงอย่างไรบ้าง นายสุวัจน์ กล่าวว่า คึกคัก ตื่นตัว ประชาชนคาดหวังสูง เพราะปัญหาของประเทศเยอะ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนคาดหวังกับการเลือกตั้งครั้งนี้สูงมาก ว่าจะเป็นทางออก ดังนั้นพวกเราจะต้องไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการแย่งชิงคะแนนเสียงจะมีผล นายสุวัจน์กล่าวว่า แย่งขั้วแย่งคะแนนไม่เป็นไร เพราะทุกคนอยากชนะ และเป็นรัฐบาล แต่อย่าขัดแย้ง เพราะความขัดแย้ง จะนำไปสู่การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ ถ้าขัดแย้งและถ้าคะแนนออกมาก้ำกึ่งกันอีก จะทำให้การ จัดตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น เพราะเราต้องการเสียงสนับสนุนให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เราต้องการความร่วมมือ เพื่อให้สภาฯ เป็นที่แก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้
เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนของชาติพัฒนากล้า จะร่วมมือกับพรรคการเมืองที่ได้อันดับ 1 ใช่หรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า เป็นจุดยืนของพรรคและเราก็พูดมาตลอด เราเป็นนักกีฬาที่ทำตามกติกามาตลอด เรายึดเสียงข้างมาก และยึดเสียงของประชาชน ประเพณีที่ผ่านมา ถ้ายึดตามเสียงข้างมากก็จะเรียบร้อยมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ก็ควรจะได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล ยกเว้นแต่พรรคที่ได้อันดับ 1 รวบรวมเสียงได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ต้องขยับเป็นเบอร์สองสามจัดตั้งรัฐบาลต่อ
เมื่อถามว่าโพลให้เพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 นายสุวัจน์ กล่าวว่า โพลก็คือโพลต้องดูผลการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.แต่ที่ผ่านมาพรรคชาติพัฒนากล้าเราเข้าได้กับทุกฝ่าย เคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับทุกฝ่ายเรานิยมทำการเมืองแบบหันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอม มีอะไรก็พูดคุยกันได้ เพราะฉะนั้นเราไม่เป็นศัตรูทางการเมืองกับพรรคใดพรรคหนึ่ง
