วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlight‘กรณ์’ย้ำชัด‘ชพก.’ไม่ร่วม‘เสียงข้างน้อย’ ถ้าจะตั้ง‘รัฐบาล-นายกฯ’อาศัยเสียงส.ว.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘กรณ์’ย้ำชัด‘ชพก.’ไม่ร่วม‘เสียงข้างน้อย’ ถ้าจะตั้ง‘รัฐบาล-นายกฯ’อาศัยเสียงส.ว.

กรณ์” ปราศรัยสุราษฎร์ธานี ประกาศ จุดยืนชัดเจน “ไม่ร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.มาเลือก “นายกฯ”ขอเป็นพรรคที่พร้อมสู้เพื่อความถูกต้องทวงความเป็นธรรมคืนให้พี่น้องประชาชน  

เมื่อค่ำวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ธชา จินตวร นายเอราวัณ ทับพลี รองเลขาธิการพรรค นายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาพรรคผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมเวทีปราศรัยช่วย นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ ผู้สมัครส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 เบอร์ 4 หาเสียง โดยมีผู้สมัคร ส.ส. นางพงศ์ศรี นาคเมือง เขต 2 เบอร์ 8, นายสุพจน์ บานเย็น เขต 4 เบอร์ 9 และนายวศุธน เรืองขนาบ เขต 5 เบอร์ 4 ร่วมปราศรัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างอบอุ่น และร่วมรับฟังปราศรัยอย่างเนืองแน่น 

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นพรรคเล็กและเป็นพรรคใหม่ แต่เรากล้าชกกับรุ่นเฮฟวี่เวท เรื่องที่เราออกมาสู้ ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ จนได้รับการยอมรับสะท้อนมาเป็นผลโพลของจ.สุราษฎร์ธานี เขต 1 วันนี้ ที่โพลล์บี้กับที่ 1 แบบหายใจรดต้นคอ เวลาที่เหลืออยู่อีก 10 วัน ถือเป็นช่วงสำคัญ โดยเฉพาะกับพรรคการเมืองและผู้สมัคร ที่หาเสียงแนวสร้างสรรค์ ไม่แจกเงิน เราต้องรักษาสถานะเป็นผู้ท้าชิง ให้เข้าสู่เส้นชัยให้ได้ 

นายกรณ์ กล่าวว่า เรามักได้ยินคำถามเสมอว่า เราอยู่ฝั่งไหน ซ้ายหรือขวา เราตอบไม่แบบอายว่า เรามองข้ามขั้วการเมือง แต่มาสู้กับเรื่องปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ไม่ตั้งเงื่อนไขให้กับสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็นกลยุทธ์การเมืองของพรรคใหญ่ เพื่อแบ่งประชาชนออกเป็นสองข้าง แต่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย และยังเป็นอุปสรรคของประเทศในการที่จะเดินต่อไปข้างหน้า 

นายกรณ์ กล่าวว่า เรามีจุดยืนชัดเจนว่า เราไม่พร้อมร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.มาเลือกนายกฯ เราถูกปรามาสเสมอว่า เราพร้อมเสียบ ซึ่งต้องบอกว่า ถ้าเป็นพรรครอเสียบ ก็ต้องสงวนปากสงวนคำอยู่นิ่งๆ ไม่พูดเรื่องใหญ่ ไม่ท้าทายใคร แต่เราสู้กับทุนใหญ่ ทุนผูกขาด มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟ ที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาค่าครองชีพขอวงประชาชน ซึ่ง่มันสวนทางกับพรรครอเสียบ แต่เป็นพรรคที่พร้อมสู้เพื่อความถูกต้องทวงความเป็นธรรมคืนให้พี่น้องประชาชน  

“เราพร้อมสู้กับทุนผูกขาดทุกชนิด เพื่อพี่น้องประชาชน ไม่มีใครที่พึ่งพาได้เหมือนกับเรา ในการยืนหยัดต่อสู้กับใครก็ตาม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของท่าน ผมมีจุดยืนเรื่องนี้ ตั้งแต่เริ่มทำงาน ก่อนการทำงานการเมืองด้วยซ้ำ ผมเกลียดที่สุดคือ ทุนผูกขาด เพราะกระทบกับต้นทุนชีวิตประชาชน ครอบงำการเมืองทุกขั้ว เราขอต่อสู้ในแนวทางสร้างสรรค์ ประเทศไทยต้องมีพรรคการเมืองแบบนี้เข้าไปทำงานในสภาฯ ท่านไม่ต้องกังวลว่า เลือกเราแล้วจะได้เป็นรัฐบาลไหม ขอให้ท่านเลือก ‘อนุวัตร’ เบอร์ 4 และพรรคชาติพัฒนากล้าเบอร์ 14 ขอให้เรามีส.ส.ในสภา จะกี่คนก็ตาม เราพร้อมยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนขอทุกคนอย่าลังเล”หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

ด้านนายวรวุฒิ กล่าวว่า นโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า เราเน้น โอกาสนิยม’ ให้คนตัวเล็ก ทำธุรกิจได้ เติบโตได้ แข็งแรง แข่งกันทุนใหญ่ได้ พรรคชาติพัฒนาจึงมีนโยบายเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก สนับสนุนเกษตรกรสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าด้วยการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร แต่ระบบราชการไม่เอื้ออำนวยทำให้ต้องเกี่ยวพันกันหลายกระทรวง ไม่เปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเติบโต 

นายวรวุฒิ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเสนอโครงการ “บริษัทมหาชนของเกษตรกร” โดยใช้กลไกตลาดทุนมาช่วย  เราดึงเกษตรกรมารวมตัวกัน โดยมีเศรษฐีคนไทย และนักลงทุนต่างประเทศ มาสนับสนุนนักบริหารทางการตลาด และหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ แบบนี้เกษตรกรได้ประโยชน์ตั้งแต่ขายราคาพืชผลแปรรูปผลผลิต และนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาเพื่อพัฒนาสินค้า ถ้าทำแบบนี้เกษตรกรเราไม่จนแน่นอน และโมเดลนี้จะเริ่มที่ จ.สุราษฎร์ธานีเป็นที่แรก เพราะเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้าเรามั่นใจว่าเราเป็นพรรคแห่งความหวัง เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน เราพูดได้ชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ต้องเกรงใจทุนใหญ่ เราไม่รับทุนผูกขาด และเป็นพรรคแรกที่ต่อสู้เรื่องพลังงาน และออกมาเตือนรัฐบาลหลายครั้งว่า ราคาน้ำมัน ค่าไฟ และข้าวของ จะแพงตามมา แต่รัฐบาลไม่ทำ และยังประกาศขึ้นค่าไฟ ซ้ำเติมประชาชน และยังเอา รมว.พลังงานมาเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 2 ของพรรคลุงอีก มันสะท้อนถึงทุนผูกขาดที่มีอำนาจที่อยู่เหนือการเมือง   

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราไม่เน้นประชานิยม แต่เน้นโอกาสนิยมเราไม่เน้นแจก ตอนนี้มีหลายพรรคการเมืองมีนโยบายลดแลกแจกแถม บางพรรคประกาศจะขึ้นค่าแรงในอีก 5 ปีข้างหน้า ชี้นำอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้ของแพงขึ้น และยังซ้ำด้วยนโยบายแจกประชาชนคนละหมื่น รวมแล้ว 5.5 แสนล้านบาท งบประมาณดังกล่าวสามารถสร้างมอเตอร์เวย์จากเหนือจรดใต้ แต่จะเอามาแจกในเวลาไม่กี่เดือน ตนไม่เคยเห็นใครทำนโยบายแบบนี้มาก่อน เรื่องการแจกทำได้ แต่ต้องเป็นช่วงที่ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตในช่วงโควิด-19 แต่ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ภาวะวิกฤตจึงไม่ใช่เวลาของการแจก เราจะใช้เงินแบบเทน้ำเทท่าแบบนั้นไม่ได้ 

“คุณกรณ์ สมัยเป็นรมว.คลัง เพราะทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อสิบกว่าปีก่อน จีดีพีติดลบ 0.7 คุณกรณ์ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จนพลิกจีดีพีขึ้นมา 7.5 ภายใน 1 ปี จนโลกยกให้เห็น ‘รมว.คลังโลก’ ซึ่งไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีคนไหน ทำได้แบบคุณกรณ์ วันนี้เรามาบอกว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีทีมเศรษฐกิจที่มีคุณภาพเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน” นายอรรถวิชช์ กล่าว 

ด้านนายอนุวัตร กล่าวว่า จากการเดินสายพบปะพี่น้องประชาชน ล้วนแต่สะท้อนให้ฟังว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่มีกำไร ข้าวของแพงขึ้นมาก พรรคชาติพัฒนากล้าเรามีนโยบายหลากหลาย ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน จึงขอโอกาสพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานีสนับสนุนให้ผู้สมัครของพรรค เป็นผู้แทนของพวกท่านเข้าไปทำงานในสภา เพื่อเข้าไปผลักดันนโยบายให้สำเร็จ สุราษฎร์ธานีมีทรัพยากรธรรมชาติครบถ้วน ทั้ง ทะเล แม่น้ำ ป่าไม้ ทะเล ภูเขา พืชผลทางการเกษตรอุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้มหาศาล

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img