วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlight‘ภูมิธรรม’ยันยังไม่เคาะตำแหน่งปธ.สภาฯ ‘อดิศร’ไม่ยอมพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ภูมิธรรม’ยันยังไม่เคาะตำแหน่งปธ.สภาฯ ‘อดิศร’ไม่ยอมพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส

ภูมิธรรม’ ยันยังไม่เคาะตำแหน่งประธานสภาฯ เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นเต็มที่ ‘อดิศร’ ลั่นไม่ยอมพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส ปมยกปธ.สภาฯให้ก้าวไกล

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66 ที่ที่รร.เอสซี ปาร์ค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดประชุมโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส. และบุคลากรทางการเมือง นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรค และ ส.ส.พรรค พท. ที่ได้รับการเลือกตั้งรวม 141 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยบรรยากาศการจัดสัมมนาเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางการจับตาของสื่อมวลชนว่าจะมีการถกเถียงกันเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฎร หลังมีกระแสข่าวไลน์หลุด ส.ส.พรรค พท. แสดงความไม่พอใจแกนนำพรรคที่ออกมาระบุจะยึดหลักการให้พรรคอันดับหนึ่งได้ตำแหน่งประธานสภาฯและพรรคอันดับสองได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯสองเก้าอี้

โดยผู้ที่แสดงตัวชัดเจนคือนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ก่อนการสัมมนา นายอดิศรได้ทักทายกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค จับมือพูดจากันด้วยดีพร้อมบอกกับสื่อมวลชนที่ยืนอยู่ว่า “สนิทกันดีเคยทำงานกระทรวงเดียวกันตอนอยู่ป่าก็อยู่ด้วยกัน” นายอดิศร ระบุว่า “สิ่งที่แสดงความคิดเห็นไปเพื่อพรรคทั้งนั้น” ขณะที่นายภูมิธรรม ระบุว่า “มีอะไรก็ขอให้พูดคุยกัน วันนี้ก็เบาๆ หน่อยนะ”

จากนั้นเวลา 10.00น. พรรค พท. เปิดโอกาสให้ ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อ “เพื่อไทยเปิดใจ เพื่ออนาคตไทย” นายภูมิธรรม กล่าวเปิดใจถึงกระบวนการทำงานในการเป็นตัวแทนพรรคไปทำหน้าที่เป็นเจรจาในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่ผ่านมาพวกตนได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย การพูดคุยกับพรรคก้าวไกลได้เสนอไปว่าแต่ละพรรคได้ ส.ส. ใกล้เคียงกันก็ควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคละ 14 คน พรรคก้าวไกล ได้ส.ส.มาที่หนึ่งก็ควรได้ประมุขฝ่ายบริหาร พรรค พท. ควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังรอคำตอบจากทางพรรคก้าวไกล แต่การให้ข่าวของตนและเลขาธิการพรรค อาจจะทำให้สมาชิกพรรคเกิดความไม่สบายใจหรือความไม่พอใจ เรื่องการยึดหลักการเรื่องการยึดหลักพรรคอันดับหนึ่ง วันนี้จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นได้เต็มที่

จากนั้น นายอดิศร เป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องประธานสภาฯ ตนไม่เห็นด้วยที่เรา 141 เสียง เขา 151 เสียง แต่เราไปยอมเขาทุกเรื่องราว พรรคก้าวไกลเขาควรได้เป็นฝ่ายบริหาร แต่จะหาวเอาเดือนเอาดาว เอาประธานสภาฯไปด้วย ตนว่ามันจะง่ายเกินไปหน่อย ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา ตนตรงไปตรงมา ตนสู้ให้พรรค พท. ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ลูกน้องของพรรคการเมืองใด ตนเห็นใจในการเจรจา ไม่ทราบว่าเจรจาอย่างไร ถ้าเขาได้นายกฯ เราได้ประธานสภาฯ มันจะสง่างาม และจะได้ถ่วงดุลการทำงานด้วยกัน ถึงอย่างไรเราก็ไม่สามารถให้ประธานสภาฯกับพรรคก้าวไกลได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็โหวตกันในสภา

“ผมยืนยันว่าศักยภาพของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม ผมไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะ อย่าไปยอมให้เขาง่าย เราอย่าไปห่วงความรู้สึกเขา คุณจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรค พท. เรื่องประธานสภาฯถึงอย่างไร ผมคิดว่าต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้รัฐบาลผสมเดินทางไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม ผมคนหนึ่งไม่รู้จะงดออกเสียงหรือไม่ เพราะไม่สามารถยกมือให้พระบวชใหม่ได้ พรรค พท. ไม่ใช่สาขาของพรรคก้าวไกล เราเหนื่อยยาก เพราะต้องสู้กับพรรคก้าวไกล ฉะนั้นการทำงานในทางการเมืองอย่าอ่อน แข็งต้องแข็ง พรรค พท. มีประสบการณ์มา 22 ปี เราต้องสรุปบทเรียน และพรรค พท. จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าทุกพรรคในประเทศนี้” นายอดิศร กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img