“เฟซบุ๊ก” ปิด 185 บัญชีไอโอของกองทัพ ผ่าน “กอ.รมน.” แยกเป็น 77 บัญชี-72 เพจ-18 กลุ่ม-18 บัญชีในอินสตราแกรม โดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งในภาคใต้ ใช้เงิน 350 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อใช้สำหรับการโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) มีการแถลงว่า ได้ปิดบัญชีและกลุ่มในเฟซบุ๊ก หลังจากพบว่ามีการเชื่อมโยงกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของกองทัพไทย ในเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งในภาคใต้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กปิดบัญชีในไทยที่เกี่ยวโยงกับรัฐบาล
เฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้ปิด 77 บัญชี, 72 เพจ และ 18 กลุ่ม บนเฟซบุ๊ก และอีก 18 บัญชีในอินสตาแกรม โดยบัญชีเหล่านี้เชื่อมโยงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน. : Internal Security Operations Command) และมีเป้าหมายเป็นผู้รับข่าวสารในจังหวัดทางภาคใต้ของไทย ที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกับรัฐบาลมานานนับทศวรรษ โดยเครือข่ายดังกล่าวยังใช้เงินราว 350 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อใช้สำหรับการโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมด้วย
นายทาธานีล กลีเชอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความมั่นคงด้านไซเบอร์ ของเฟซบุ๊ก กล่าวกับรอยเตอร์ว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราเลือกที่จะจัดการกับสิ่งที่เชื่อมโยงกับกองทัพไทย โดยพบถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจน (Clear Links) ระหว่างปฏิบัติการนี้กับ กอ.รมน. เครือข่ายดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่มีปฏิบัติการอย่างชัดเจนเมื่อปี 2020 ได้ใช้บัญชีปลอมเพื่อบริหารจัดการกลุ่มและเพจ รวมถึงเพจของกองทัพ ที่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพแต่อย่างใด บัญชีปลอมบางบัญชีได้มีการโพสต์เป็นรายบุคคลมาจากจังหวัดภาคใต้ของไทย
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้สั่งปิดบัญชี 926 บัญชี ที่ทวิตเตอร์ทระบุว่า เชื่อมโยงกับกองทัพของไทย ที่ใช้สำหรับการโปรโมตเนื้อหาที่สนับสนุนกองทัพและสนับสนุนรัฐบาล แต่กองทัพไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังบัญชีทวิตเตอร์เหล่านี้
รายงานข่าวชิ้นนี้ ระบุด้วยว่า โฆษกของกองทัพไทย ยังไม่สามารถแสดงความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.61 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเฟซบุ๊กแถลงว่า ได้ปิดบัญชีและกลุ่มในเฟซบุ๊กที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ในประเทศไทย ที่เป็นของกองทัพ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กปิดบัญชีในไทยที่เกี่ยวโยงกับรัฐบาลว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมไปติดตามแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีการพูดในสภาผู้แทนราษฎร จึงให้ไปติดตามดูว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร หลายอย่างก็เป็นประเด็นทางการเมืองไปด้วย นอกจากนี้ก็ได้ถามไปด้วยว่า เฟซบุ๊กลักษณะเช่นนี้มีหลายทางด้วยกัน ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว แต่ย้ำว่าได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมไปติดตามดูและทำให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น โดยเคลียร์ให้ชัดเจน
