วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight“ดีอีเอส”ตั้งทีมเฉพาะกิจปราบเฟคนิวส์ งัดมาตรการ‘ปกครอง-ภาษี-สังคม’ฟัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ดีอีเอส”ตั้งทีมเฉพาะกิจปราบเฟคนิวส์ งัดมาตรการ‘ปกครอง-ภาษี-สังคม’ฟัน

ดีอีเอส” เดินหน้าตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจฯ เพิ่มประสิทธิภาพ “ปราบข่าวปลอม” ครอบคลุมด้านปกครอง-ภาษี-สังคม “ชัยวุฒิ” วอนปชช.-ผู้ใช้โซเชียล แจ้งเบาะแสจัดการ “เฟคนิวส์”

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ครั้งที่ 4/2564 ที่ประชุมได้พิจารณาการแต่งตั้ง คณะทำงานเฉพาะกิจจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหา การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยครอบคลุมด้านการปกครอง ภาษี และสังคมอีกด้วย โดยคณะทำงานชุดนี้ จะมีหน้าที่จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ในการทำมาตรการทางปกครอง มาตรการทางภาษี และมาตรการสังคม มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ อย่างมีประสิทธิภาพและทันเหตุการณ์ อีกทั้งสนับสนุนการทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว และมีการประสานกับศูนย์ต่อต้านประจำแต่ละกระทรวงอย่างใกล้ชิด

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานสถิติการดำเนินงานระงับข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 โดยจากการที่กระทรวงดิจิทัลฯ ยื่นคำร้องและแจ้งความดำเนินคดี มีคำสั่งศาลให้ระงับแล้ว 8 คำสั่ง รวม 94 ยูอาร์แอล อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาล 8 คำร้อง รวม 145 ยูอาร์แอล และมีการแจ้งความดำเนินคดีผู้กระทำความผิดนำเข้าข้อมูลไม่เหมาะสม รวม 54 ยูอาร์แอล/บัญชีรายชื่อ ขณะที่ผลการดำเนินงานด้านการป้องกันปราบปรามในช่วงเดียวกัน ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตรวจสอบการกระทำความผิด และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริงตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีจำนวนทั้งสิ้น 35 ยูอาร์แอล

“อย่างไรก็ตามกลไกสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาข่าวปลอม คือความร่วมมือร่วมใจของประชาชน และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย อยากให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสเข้ามายังศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม โดยสามารถแจ้งมาได้ที่บัญชีไลน์ทางการของศูนย์ฯ ซึ่งปัจจุบันสมาชิกจำนวน 2,409,640 บัญชี ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันต่อต้านข่าวปลอมกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่ไลน์ @antifakenewscenter เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม” นายชัยวุฒิ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img