วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWS"ปิยบุตร"ปลุกสาวกนำร่างรธน.ชูนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ปิยบุตร”ปลุกสาวกนำร่างรธน.ชูนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง

“ปิยบุตร” ปลุกสาวกผู้แทนฯนำร่างรธน.ฉบับภาคปชช.เป็นนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง กลับมาโค่นสืบทอดอำนาจใหม่ ด้าน “ไอติม” ยังย้ำไม่สุดโต่ง ชี้ติดล่มวาทกรรมทำร่วงคาสภาฯ ลั่นต้องเดินหน้าต่อ

วันที่ 17 พ.ย. ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่ม Re-Solution ในฐานะผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. ฉบับภาคประชาชน ที่มีการเข้าชื่อจำนวน 135,247 คน ร่วมกันแถลงภายหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติไม่รับหลักการในร่างฯ

โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวัง ตรงที่ข้อเสนอของเราไปในถูกนำไปปฏิบัติในสังคม ขอย้ำอีกครั้งว่าข้อเสนอเราไม่ได้สุดโต่ง หรือพยายามให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบ เราไม่อยากให้ติดกับดักวาทกรรมสุดโต่ง ที่พูดกันในสภาฯวานนี้(16พ.ย.) หรือมีส.ว.บางคนทำให้เราเข้าใจผิดเช่นนั้น เพียงแต่ต้องการสร้างระบบการเมืองที่ควรจะเป็น คือ ค.คืนศักดิ์ศรีให้กับสถาบันการเมือง ที่กำลังเสื่อมศรัทธา โดยให้เป็นสภาฯเดี่ยว และที่มาของศาล องค์กรอิสระให้มีความเป็นกลาง สามารถเป็นที่พึ่งพาของประชาชนไว้ใจ สร้างระบบการเมืองที่ไว้ใจประชาชนให้กำหนดอนาคตตัวเอง มีอิสระเสรีภาพในการเลือกนโยบายพรรคการเมือง สามารถลงโทษพรรคการเมืองที่ไม่ทำตามนโยบายที่สัญญาไว้ มากกว่ามียุทธศาสตร์ชาติ20ปีที่มาครอบงำ และระบบกติกาที่เป็นกลาง สามารถแข่งขันกันได้อย่างเสรีเป็นธรรม รวมถึงทุกรัฐบาลต้องถูกตรวจสอบโดยศาล องค์กรอิสระที่เป็นกลางจริง ตนต้องขอโทษประชาชน 135,247 คน ที่มาร่วมเดินทางกับเรา รวมถึงที่ติดตามการอภิปราย คาดหวังจะให้ร่างฯของเราผ่าน

“ยอมรับว่าภารกิจเรายังไม่ได้สำเร็จ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงต้องเดินหน้าต่อไป ถ้ายังมีรัฐธรรมนูญที่มีที่มา กระบวนการเนื้อหาไม่ชอบธรรม มันไม่สามารถแก้ไขวิกฤตทางการเมืองได้ ผ่านมาเกือบ3ปีแล้ว ตั้งแต่เลือกตั้งปี2562 มีการแก้ไขร่างฯมา3ครั้ง ผ่านฉบับเดียวคือการแก้ไขระบบเลือกตั้ง ที่ไม่ใช่สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญปี60 ที่ถูกใช้เป็นเครืองมือสืบทอดอำนาจ นี่หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศไว้ว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคได้กล่าวไว้ว่าจะเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล หวังว่าคงไม่ใช่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญใดๆก็ตามที่ไม่แตะส.ว. กลไกสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถแก้วิกฤตได้” นายพริษฐ์ กล่าว

ด้านนายปิยบุตร กล่าวว่า การเข้าชื่อของประชาชนเพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เคยมีเลยที่รัฐสภาจะลงมติรับหลักการ ไม่เคยได้ผ่านเข้าไปพิจารณาในคณะกรรมาธิการ ไม่เคยผ่านไปถึงวาระที่3 เราคาดหวังว่าครั้งนี้จะเป็นแรกของประวัติศาสาตร์การเมืองไทย เพราะพิจารณาถึงความต้องการของประชาชนนอกสภาฯแล้ว หวังว่ารัฐสภาจะเงี่ยหูฟัง เสียงก่อนร้องนอกสภาฯดังๆบ้าง แต่ผลการลงมติชัดเจนว่าเสียงข้างมาก ยังไม่ยินยอมเปิดประตูให้กับการพิจารณาร่างฯภาคประชาชนในครั้งนี้ ดังนั้นเราต้องการสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เพราะประชาธิปไตยแบบผู้แทนเพียงอย่างเดียว ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด มีโอกาสที่ผู้แทนจะไม่ทำตาม หรือบิดเบือนเจตจำนงค์ของประชาชนก็ได้

“ช่องทางประชาธิปไตยทางตรงแบบมีส่วนร่วมถูกปิดลงอีกแล้ว ประชาชนที่เข้าชื่อ 135,247 คน และที่สนับสนุนแต่ไม่ทันลงชื่อ อย่าสิ้นหวัง เรายังมีลมหายใจ มีความคิดที่จะรณรงค์ต่อไป เมื่อรัฐธรรมนูญ60ประกาศใช้ ยอมรับว่าแก้ไขยาก แต่ถ้าเราไม่เคลื่อนไหว พวกเขาก็จะอยู่กับรัฐธรรมนูญที่เขาออกแบบมาไปตลอดกาล จึงเป็นภารกิจของพวกเราประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญตัวจริงเสียงจริง ที่ต้องผลักดันต่อไป แม้ไม่ประสบความสำเร็จ จะต้องล้มอีกกี่ครั้งจลต้องลุกขึ้นยืนใหม่ ต่อสู้ผลักดันแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จให้ได้ ส.ส.ที่เห็นด้วยกับร่างฯเราแม้จะเป็นเสียงข้างน้อย แต่อีกไม่กี่ปีคงจะมีการเลือกตั้งตามมา ผมจึงฝากความหวังว่า ส.ส.เหล่านี้จะนำแนวคิดของร่างฯฉบับนี้ไปปรับเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง แล้วประชาชนที่สนับสนุนก็จะเลือกพวกท่านกลับเข้ามาส.ส. เป็นเสียงข้างมากมาช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จต่อไป”นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ปฏิกริยาทางการเมืองจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนประเมินไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้กำกับ ไม่ใช่คนตัดสิน ควบคุมต่างๆ แต่เชื่อว่าสังคม และสมาชิกรัฐสภาคงคาดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมาหรือไม่ อย่างไร เพราะหลายเรื่องเป็นความต้องการของประชาชน หลายเรื่องในการชุมนุม ก็เรียกร้องให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เราแก้ได้เเก้ได้เพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างระบบเลือกตั้งเท่านั้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img