วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกNEWS"โรม" เแฉขบวนการค้ามนุษย์-จนท.รัฐร่วมกระบวนการ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“โรม” เแฉขบวนการค้ามนุษย์-จนท.รัฐร่วมกระบวนการ

“โรม” ร่ายยาวเป็นฉากๆ! เแฉขบวนการค้ามนุษย์-กระบวนการจากเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

วันที่ 18 ก.พ.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. วันที่สอง จากนั้นนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายย้อนกลับเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2564 ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2021 และลดลำดับประเทศไทยมาอยู่ในกลุ่ม Tier 2 Watch List ซึ่งมีหลายเหตุผลที่น่าสนใจ เช่น การลักลอบขนคนผิดกฎหมายข้ามชายแดนระหว่างเมียนมาร์และไทย มีการเรียกเก็บเงินตั้งแต่ 10,000 ถึง 70,000 บาท เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่น และตรวจคนเข้าเมืองซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีความพยายามที่จะปราบปรามการค้ามนุษย์ที่อาจจะเป็นการปรับปรามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีประเทศไทยมา ที่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้และตั้งแต่นายหน้าค้ามนุษย์ที่เป็นบุคคลทั่วไป จนถึงระดับทหารระดับสูง คือกรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่นำทีมสืบสวนสอบสวนโดยพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า กรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา คือชาติพันธ์ที่ถูกกดขี่จากเมียนมาร์ที่ต้องการอพยพไปยังมาเลเซียและจำเป็นต้องใช้เส้นทางผ่านประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการหาเงินจากชีวิตของคน ที่เรียกเก็บเงินหัวละหลายหมื่นบาท และนำชาวโรฮิงญาลงเรือประมงและแล่นเข้าน่านน้ำไทย และนำมาขังไว้ที่ค่ายลับกลางป่าเขา ซึ่งบางกรณีภรรยาถูกข่มขืนต่อหน้าสามี หรือพ่อต้องทนดูลูกสาวถูกกระทำชำเรา หรือในบางกรณีถูกซ้อมทรมานเพื่อเรียกค่าไถ่ ซึ่งระหว่างการอภิปรายนายรังสิมันต์ ได้เปิดภาพหลุมศพชาวชาวโรฮิงญา ที่ถูกตรวจพบบริเวณเทือกเขาแก้ว ตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อเดือนพ.ค.ปี 2558 ซึ่งจากการชันสูตรศพพบว่าบางศพขาดสารอาหารตาย และบางศพเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า ลำพังหากเป็นอาชญากรทั่วไปไม่สามารถทำได้ หากไม่มีอาชญากรในเครื่องแบบเข้าไปร่วมด้วย โดยพล.ต.ต.ปวีณ ก็สามารถพิสูจน์ได้ในขณะนั้นว่าเป็นเช่นนี้จริง โดยการสืบสาวไปจนถึงนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอีกหลายนาย และ เจ้าหน้าที่ภาครัฐใหญ่ที่สุดที่จับได้ในขณะนั้นคือพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ซึ่งหลังจากที่ฝพล.ต.ต.ปวีณ สามารถเปิดโปงกลุ่มผู้ค้ามนุษย์รายใหญ่ได้ ประเทศไทยก็สามารถเพิ่มลำดับในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาได้ และท้ายที่สุดพล.ต.ต.ปวีณ เจ้าของผลงานเปิดโปงการค้ามนุษย์กลับต้องเป็นผู้ลี้ภัยออกนอกประเทศ จนถึงปัจจุบันประเทศไทยก็กลับมาอยู่ในระดับ Tier 2 Watch List อีกครั้ง

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังได้โชว์เอกสารคำให้การของพล.ต.ต.ปวีณ ต่อทางการประเทศออสเตรเลียเพื่อใช้ประกอบการขอลี้ภัย โดยสาบานว่าคำให้การล้วนแล้วแต่เป็นความจริงและได้รับความยินยอมจากประเทศต้นทางแล้วว่าให้พลตำรวจตรีปวีณ สามารถขอลี้ภัยได้โดยมีลายเซ็นกำกับของพลตำรวจตรีปวีณในเอกสารทุกหน้า

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงเส้นทางการทำงานของพล.ต.ต.ปวีณว่า เป็นนายตำรวจมือฉมัง ที่เคยมีผลงาน เช่น การปราบมาเฟียแท็กซี่ที่จังหวัดภูเก็ต การสืบสวนคดีโรงพักตำรวจทั่วประเทศที่ไปเกี่ยวข้องกับนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่ง ที่เคยเป็นกำนันอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนสามารถขยายผลและออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้และต่อมาได้มีการขยายผลสืบค้นบ้านพักผู้ต้องหาที่จังหวัดระนอง โดยมีพันตำรวจเอก อ. เป็นหัวหน้าชุดซึ่งขณะนั้นได้พบหลักฐานการโอนเงินจากผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ และลงชื่อผู้รับเงินที่สำคัญหลายคน เช่น นางจันทรา ปั้งซวด หรือ เจ๊ง้อ ที่มีสายสัมพันธ์โยงไปถึงอดีต ผบ.ทบ.ในรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วย และอีกหนึ่งรายชื่อสำคัญที่รับเงินจากการค้ามนุษย์คือพล.ท.มนัส โดยมีวงเงินกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งกรณีของพล.ท.มนัส ในครั้งนั้นพล.ต.ต.ปวีณ ไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน และติดบางพยานหลักฐานต่างๆจากพันตำรวจเอก อ.

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แต่ในฐานะที่ควบคุมดูแลตำรวจในขณะนั้น เคยรับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ ซึ่งจากการออกหมายจับและขยายผลดังกล่าวทำให้ผู้ต้องหาทยอยเข้ามอบตัวซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง ออกมามอบตัวกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของพล.ต.ต.ปวีณ ได้เผยว่าเคยรับสายจากนายตำรวจคนสนิทของพล.อ.ประวิตร โดยอ้างว่าพล.อ.ประวิตรต้องการเห็นพล.ท.มนัส คงแป้น ถูกปล่อยตัว ซึ่งหลังจากรับสายโทรศัพท์ไม่นานกลับพบว่าพล.ท.มนัส
เข้ามอบตัวกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น โดยสตช.ได้จัดเครื่องบินส่วนตัวจากกรุงเทพฯ สู่หาดใหญ่จังหวัดสงขลา ประกอบกับกรณีที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ได้เขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ตอนหนึ่งว่าได้ยินว่าพลต.อ.สมยศ พูดคุยกับพล.ท.มนัส ว่า เราเป็นพี่น้องกันจะให้ความเป็นธรรมสอบสวนเสร็จแล้วจะให้ประกันตัว

“จึงเป็นที่น่าสนใจว่าเป็นการไม่เคารพต่อกฎหมายโดยใช้เส้นสายช่วยเหลือพวกพ้อง เนื่องจากคดีการค้ามนุษย์ครั้งนี้ถือเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับนอกราชอาณาจักร ตามกฎหมายแล้วผู้ที่จะสั่งให้หรือไม่ให้ประกันต้องเป็นอัยการสูงสุดเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี และท้ายที่สุดพล.ต.ต.ปวีณ ต้องถูกย้ายไปพื้นที่ขัดแย้งที่เคยทำคดีมาก่อน ดังนั้นจึงขอตั้งคำถามไปยังพล.อ.ประวิตร ว่าในการย้ายพล.ต.ต.ปวีณไปในพื้นที่เสี่ยงนั้นต้องการให้พล.ต.ต.ปวีณ จบชีวิตหรือไม่”นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวตนได้เคยพูดคุยกับพล.ต.ต.ปวีณ จึงทำให้ทราบว่าคดีการค้ามนุษย์ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ในการจับการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่ลงเรือได้เพียงนายทหารชั้นผู้น้อย และเป็นไปได้หรือ ที่นายทหารยศน้อยสามารถสั่งเปิดน่านน้ำได้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img