“สรวิศ ศูนย์นวัตกรรมฯ-ไทยสร้างไทย” ติง รมว.ดีอีเอส ชี้ Single Gateway ไม่ใช่ทางออกสุดท้าย แนะต้องสร้างความร่วมมือ IPS กับภาครัฐ กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยเชิงนโยบายมากกว่าการควบคุมจากภาครัฐ
นายสรวิศ เดชเสน คณะทำงานศูนย์นวัตกรรม และข้อมูล พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าจากกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ย้ำถึงความจำเป็นของ Single Gateway (ซิงเกิ้ลเกตเวย์) เพื่อควบคุมการใช้อินเตอร์เน็ต การส่งข้อมูลข่าวสารในประเทศว่า
“หัวใจสำคัญของ Internet คือการเชื่อมโยงแบบไร้พรมแดน ซึ่งเป็นสภาพของการ Decentralized โดยแท้จริง การมี Single Gateway ไม่ได้แค่จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากทั้งในและต่างประเทศจากการที่รัฐมีอำนาจในการควบคุมตรวจสอบข้อมูลได้ทุกชนิด นอกจากความเป็นส่วนตัวและประสิทธิภาพของ Internet ที่ต้องสูญเสียไป การที่ไทยไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการทำ Single Gateway ทั้งปริมาณ เวลา บุคลากร หากเอามาใช้จริงต้องมีการลงทุนในด้านสถาปัตยกรรมโครงสร้างพื้นฐานซึ่งต้องใช้เม็ดเงินทุนในการพัฒนาและดูแลรักษาจำนวนมหาศาล ประกอบกับการที่เราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีและยังต้องพึ่งพาต่างชาติอยู่มาก เราอาจจะไม่ต่างจากเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีแบบกลาย ๆ ได้เลย”
นายสรวิศ กล่าวเพิ่มเติมว่าหากพิจารณาดูแล้ว Single Gateway ยังจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหายนะทางการสื่อสารมากกว่าเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับเพียงแค่ความสามารถในการควบคุมตรวจสอบข้อมูล ลองจินตนาการตามว่าหาก Gateway ล่มขึ้นมาจะส่งผลให้การสื่อสารภายในประเทศเป็นอัมพาตไปแทบจะในทันที แม้ว่าเทคโนโลยีทุกวันนี้จะสามารถทำได้และโอกาสอาจจะน้อย แต่บริษัทระดับโลกอย่าง Facebook ที่มีบุคลากรและเครื่องมือระดับแนวหน้าของโลกและเป็น multiplegateway ก็เคยล่มไป 6 ชั่วโมงมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องชั่งน้ำหนักในการบริหารความเสี่ยง และเรายังไม่ได้พูดถึงการถูกโจมตีทางไซเบอร์เต็มรูปแบบซึ่งเรามักจะโดนบ่อย ๆ เช่นเดียวกัน คำถามคือ เรารับความเสี่ยงเหล่านั้นได้หรือไม่และประชาชนจะได้รับการเยียวยาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่หากวิกฤตการณ์มันเกิดขึ้น และใครจะรับผิดชอบ
“ประชาชนมีทางเลือกนโยบายอื่นอีกหรือไม่ Single Gateway เป็นคำตอบเดียวในการแก้ปัญหาเชิงนโยบายแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นรึเปล่า ในบทบาทของภาครัฐเองเรายังสามารถส่งเสริมและสร้างการมีส่วนร่วมกับ ISP ให้มีกลไกคุ้มครองผู้บริโภคได้มากมาย โดยอาจจะมาในรูปของการส่งเสริม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง ISP และภาครัฐ การกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย หรือสนับสนุนการลงทุนเพื่อสร้างระบบที่ป้องกันปัญหาเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นก็ยังได้ Single Gateway จึงไม่ได้เป็นคำตอบสุดท้ายในเรื่องนี้และประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องนี้” นายสรวิศกล่าว
