วันจันทร์, พฤษภาคม 6, 2024
หน้าแรกHighlight"นิกร" ไม่กังวลร่างกม.ลูก 2 หลังปรับแก้ได้ปย.ทุกพรรค เชื่อ 2 เดือนเสร็จ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นิกร” ไม่กังวลร่างกม.ลูก 2 หลังปรับแก้ได้ปย.ทุกพรรค เชื่อ 2 เดือนเสร็จ

“ชาติไทยพัฒนา” หนุนโหวตกม.ลูก 2 ฉบับ หลังปรับแก้ลงตัวพรรคใหญ่-เล็กได้ประโยชน์ร่วมกัน คาดผ่านฉลุย พิจารณาเสร็จไม่เกิน 2 เดือน

วันที่ 20 ก.พ.65 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนในการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองของพรรคชทพ. ว่า พรรคสนับสนุนร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ตรงกับร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ยื่นโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เพราะเดิมร่างของกกต.มีปัญหาเรื่องเบอร์จากเมื่อก่อนที่ร่างของกกต.ทำเป็นเบอร์เดียวกันหมายความว่าเป็นบัตร 2 ใบแต่เบอร์เดียวกัน แต่มันอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะในมาตรา 90 กำหนดว่าการสมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องสมัครแบบเขต “แล้ว” ซึ่งคำว่า “แล้ว” มีนัยยะ คือ ต้องได้เบอร์จ่ายเงินค่าสมัครเรียบร้อย “แล้ว” ถึงจะสมัครได้ ดังนั้นจึงจะเหมือนกันไม่ได้ ซึ่งตอนหลังร่างของกกต. ได้มีการปรับปรุงแล้วเป็นบัตร 2 ใบแต่คนละเบอร์ โดยในเขตเลือกตั้งก็จะจับฉลากเบอร์ใครเบอร์มัน

ซึ่งตอนเลือกตั้งประชาชนจะต้องจำเบอร์ของส.ส.ในเขต แม้จะไม่เหมือนแบบที่เราอยากได้แต่เป็นข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามก็มีข้อดีคือในเขตเบอร์จะไม่ถูกเว้นว่างเรียงตามลำดับส.ส.สมัคร 5 คนก็ 5 เบอร์ ถ้าเบอร์เดียวจะกลายเป็นเบอร์ 1 ,3 ,21 อย่างนี้จะโบ๋และกากยาก และในทางการเมืองเห็นว่าจะทำให้พรรคการเมืองต้องแบ่งหาเสียงเป็น 2 ส่วน 1.พรรคการเมืองมีนโยบายอะไรก็สู้กัน 2.ส.ส.ในเขตเลือกตั้งใครอยู่ใกล้ชิดประชาชนก็ได้เปรียบไป ซึ่งจะแยกกันเดินถือเป็นการพัฒนาทางการเมือง อีกอย่างนึงและพรรคชทพ.ในฐานะที่ไม่ได้เป็นพรรคขนาดใหญ่ถ้าเป็นเช่นนี้จะไม่เสียเปรียบนัก ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้เปรียบพรรคมาก ส่วนเรื่องการนับคะแนนร่างของครม.และพรรคร่วมรัฐบาลตรงกัน คือ คะแนนโดยการหารหาค่าเฉลี่ยและหากต่ำกว่าค่ากลางให้เรียงแล้วตัดจนกระทั่งเศษหมดไป

นายนิกร กล่าวว่า กฎหมายพรรคการเมืองมีปัญหาคือ ร่างของครม.แก้ไปเพียงนิดเดียว เพราะเขาไม่สามารถจะแก้เพื่อแก้ปัญหาของพรรคการเมือง จึงยึดเอาร่างของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งร่างของพรรคร่วมรัฐบาลได้แก้ไขไปหลายอย่าง เช่น ตัวแทนประจำจังหวัด ถอดการลงไพรมารี เป็นต้น ถือว่าแก้ไขครอบคลุมมากกว่า อย่างไรก็ตามในวาระแรกขั้นรับหลักการที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 -25 กุมภาพันธ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นร่างของครม.หรือพรรคอื่นๆที่มีหลักการเดียวกันทางพรรคชทพ.จะรับหลักการและค่อยไปปรับปรุงแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากฎหมายทั้งสองฉบับควรทำเสร็จในช่วงเวลาใด นายนิกร กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดเดียวทำกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เหมือนกัน คาดว่าจะพิจารณาไม่เกิน 2 เดือนก็เสร็จทั้ง 2 ฉบับ หากคณะกรรมาธิการพิจารณาทันก่อนเปิดสมัยประชุมสามัญก็อาจขอเปิดสมัยวิสามัญ แต่ถ้าพิจารณาไม่ทันก็จะพิจารณาต่อในสมัยสามัญ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img