วันอาทิตย์, พฤษภาคม 5, 2024
หน้าแรกHighlight“เทพไท”เตือนสติ“พท.” หยุดรื้อโครงการจำนำข้าวสร้างตราบาปให้ประเทศอีก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เทพไท”เตือนสติ“พท.” หยุดรื้อโครงการจำนำข้าวสร้างตราบาปให้ประเทศอีก

“เทพไท” เบรก “เพื่อไทย” หยุดฟื้นโครงการจำนำข้าวสร้งาตราบาปให้ประเทศอีก นำบทเรียนคนเกี่ยวข้องติดคุก-หนีไปต่างประเทศ

วันที่ 27 ก.พ.65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า ผมได้เห็นกระแสข่าวการรีเทิร์นของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับโครงการจำนำข้าวเวอร์ชั่นใหม่ และการแถลงข่าวของ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีแนวความคิดจะรื้อฟื้นโครงการรับจำนำข้าวขึ้นมาใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อโครงการเป็นชื่อใหม่ เพื่อไม่ให้แสลงใจต่อพี่น้องคนไทย ที่ติดภาพลักษณ์การทุจริตของโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยสร้างไว้ จนรัฐบาลชุดนี้ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ด้วยงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ สูงถึง 7 แสนล้านบาท นับเป็นความเสียหายของประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง

การต้องการรื้อฟื้นโครงการรับจำนำข้าว กลับคืนมาอีก จะเป็นภาพหลอนของพี่น้องประชาชนคนไทยอีกครั้งหนึ่ง เพราะวันนี้ได้มีการพิสูจน์ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนแล้วว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ ดีกว่าโครงการรับจำนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีแต่ความสูญเสีย ความเสียหาย เปิดช่องให้มีทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมโหฬาร แต่โครงการรับประกันรายได้เกษตรกร สามารถป้องกันการทุจริตได้ทุกขั้นตอน เพราะเป็นการโอนเงินส่วนต่างของราคาประกัน เข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรโดยตรง ไม่มีการใช้เงินสดผ่านมือบุคคลใด จึงไม่มีการรั่วไหลของเงินจากโครงการประกันรายได้ ส่วนโครงการรับจำนำ กลับมีช่องว่างให้เกิดการทุจริตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เจ้าของโรงสี เจ้าของโกดัง พ่อค้าคนกลาง นักการเมือง เกษตรกร รัฐบาลต้องเสียเงินค่าเช่าโกดัง ข้าวเน่า ข้าวเสีย ข้าวถูกขโมย มีสต๊อกลม หรือไฟไหม้โกดังเก็บข้าว ล้วนแล้วแต่เป็นความสูญเสียทั้งสิ้น

สำหรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ยุครัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประสบความสำเร็จมาแล้ว เพราะสินค้าเกษตรทุกชนิด มีราคาสูงกว่าราคาประกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคายางพารา ที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ กิโลกรัมละ 180-200 บาท และในขณะนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล ที่ใช้นโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกันราคาสินค้าเกษตร 5 ชนิด มี 4 ชนิดที่ราคาท้องตลาดสูงกว่าราคาประกันรายได้ เช่น ยางพารา ประกันรายได้ กิโลกรัมละ 60 บาท ราคาท้องตลาดกิโลกรัมละ 65.40 บาท ปาล์มนำ้มัน ประกันราคากิโลกรัมละ 4 บาท ราคาท้องตลาดกิโลกรัมละ 8.20-9.20 บาท มันสำปะหลัง ราคาประกัน กิโลกรัมละ 2.50 บาท ราคาท้องตลาด กิโลกรัมละ 2.40-2.60 บาท ข้าวโพดประกันราคา กิโลกรัมละ 8.50 บาท ราคาท้องตลาดกิโลกรัมละ 10.50 บาท ยกเว้นราคาข้าวเปลือกเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ที่ราคาท้องตลาดยังตำ่กว่าราคาประกันรายได้ ตันละ 15,000 บาท ราคาท้องตลาด เกวียนละ 11,500-13,700 บาท (ข้อมูล 25 ก.พ. 2565)

“จึงอยากจะเสนอให้พรรคเพื่อไทย ได้ทบทวนแนวความคิด ที่จะรื้อฟื้นโครงการรับจำนำขึ้นมาอีก เพราะจะเกิดความเสียหาย และความสูญเสียให้เกิดขึ้นในกับประเทศชาติอีกครั้งหนึ่ง เพราะผลงานในอดีตย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่า ประเทศชาติเกิดความเสียหายมากน้อยแค่ไหน มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิด ถึงขั้นติดคุก ติดตะราง หนีคดีกันหลายคน ขอให้หยุดสร้างตราบาปไว้กับประเทศชาติ แล้วมาสานต่อ หรือต่อยอดโครงการประกันรายได้เกษตรกร กันดีกว่า”นายเทพไท กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img