แกนนำม็อบทยอยถูกจับ กุนซือปรับกลยุทธ์เข้าตีใหม่

สถานการณ์การเมืองลุ้นกันวันต่อวัน เมื่อแกนนำม็อบทยอยถูกจับไป กลุ่มคนที่เห็นต่างก็ไม่ได้ย่อท้อยังเดินหน้าจัดกิจกรรมต่อไป แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการโจมตี โดยเปลี่ยนเป้าจากการจาบจ้วงสถาบัน มาเป็นการด้อยค่ารัฐบาล และพุ่งเป้ามาที่ตัวนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก ล่าสุดม็อบประกาศจะพักค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย มาดูกันว่าตำรวจจะยอมหรือไม่…??

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ TheKeynews   ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม แม้ว่าขณะนี้จะมีจํานวนลดลง แต่ยังคงพยายามจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อดํารงความเคลื่อนไหว และพยายามจะยึดผิวการจราจรเป็นพื้นที่ทํากิจกรรมเพื่อให้สังคมเกิดความวุ่นวาย แนวโน้มเป็นไปได้ว่า การทํากิจกรรมของกลมุ่ต่อจากนี้อาจใช้วิธีครอบครองพื้นที่ปักหลักชุมนุมกึ่งถาวรเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการกดดันรัฐบาลได้มากขึ้น

 

@@@……ด้าน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีคนเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรง หากกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลว่า ไม่ต้องห่วง ตนดูแลอยู่และดูแลทุกวัน ที่พวกคุณปลอดภัยทุกวันนี้เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือที่ทำให้ประเทศชาติปลอดภัย พร้อมย้อนถามว่าทำเนียบเข้าได้หรือไม่ 

@@@……ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามสถานการณ์การชุมนุมละเมิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่หน้าศาลอาญา และอีกหลาย ๆ ครั้ง พบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบผิดกฎหมายเหล่านี้กำลังชี้นำการต่อสู้ให้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการโจมตีด้อยค่าการทำงานของรัฐบาลกับการจาบจ้วงสถาบันไปเป็นการเน้นไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และลดการโจมตีสถาบันลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากม็อบไม่สามารถจุดกระแสสังคมให้คล้อยตาม และมีแนวโน้มแผ่วลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากตำรวจได้ดำเนินการจับกุม ”โตโต้” ที่กำลังแจกจ่ายอุปกรณ์ที่จะใช้เป็นอาวุธให้แก่ 50 การ์ดสมาชิก ที่จัดตั้งขึ้นพร้อมใช้ความรุนแรงเพื่อเรียกแขก

@@@……ประเด็นสำคัญอีกประการได้แก่ การละเมิดศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย คาดว่าจะรวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดีได้ในไม่ช้าแน่นอน การจับกุมแกนนำและศาลไม่ให้สิทธิในการประตัวชั่วคราวที่ผ่านมาให้ผลชะงักม็อบที่ใช้สันติวิธีเทียมแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ายความมั่นคงจึงเชื่อว่า ม็อบผิดกฎหมายเหล่านี้ จะลดความร้อนแรงลงอีก หากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอัยการเร่งส่งผู้เกี่ยวข้องและสาวไปถึงคนอยู่เบื้องหลังให้ถึงผู้ชี้นำอยู่เบื้องหลัง หรือที่เรียกว่า “MASTER MIND” ขึ้นดำเนินการสู่ศาลให้เร็วขึ้น 

@@@……ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงยังคงติดตามสถานการณ์การสร้างความวุ่นวายในประเทศต่อเนื่องต่อไป และไม่อยากให้ความขัดแย้งหรือความแตกแยกทางสังคมขยายตัวไปมากกว่านี้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาเดินหน้าประเทศต่อไปได้ อย่างน้อยอีกไม่นานการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็กำลังจะเกิดขึ้น ประชาชนชาวไทยทั้งมวลจะเป็นผู้ใช้อำนาจในการเลือกผู้แทนราษฎรมาจัดตั้งรัฐบาลตามที่คนส่วนใหญ่พอใจได้ต่อไป 

@@@……กลับมาที่กองทัพกัน วันก่อน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำ เสธ.ทหาร และเสธ.ทุกเหล่าทัพ ร่วมกับผู้แทน กต. ร่วมหารือ ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ ครั้งที่ 6 กับ นาย David Helvy รักษาการ ผช.รมว.กห.สหรัฐฯ ฝ่ายกิจการความมั่นคงอินโด-แปซิฟิก พร้อมคณะ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดยเป็นการหารือต่อยอดแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง ไทย-สหรัฐฯ ค.ศ. 2020 และสานต่อความร่วมมือจากการหารือ ระหว่าง นรม.และรมว.กห. และ รมว.กห. สหรัฐฯ ที่ผ่านมา

@@@……ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารระหว่างกันให้มากขึ้น  ผ่านกลไกต่างๆที่มีอยู่ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะการฝึก การศึกษา การพัฒนากองทัพสมัยใหม่และด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยสหรัฐฯ ได้ย้ำไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่และความเป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค และพร้อมยินดีสนับสนุนไทยแก้ปัญหาความท้าทายของภูมิภาครวมทั้งพร้อมเสริมสร้างความทันสมัยของการปฏิบัติการทางทหารของกองทัพไทย และความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเท@admin@@@……ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารระหว่างกันให้มากขึ้น  ผ่านกลไกต่างๆที่มีอยู่ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะการฝึก การศึกษา การพัฒนากองทัพสมัยใหม่และด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยสหรัฐฯ ได้ย้ำไทยเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่และความเป็นแกนกลางของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาค และพร้อมยินดีสนับสนุนไทยแก้ปัญหาความท้าทายของภูมิภาครวมทั้งพร้อมเสริมสร้างความทันสมัยของการปฏิบัติการทางทหารของกองทัพไทย และความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

@@@……กองทัพอากาศจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกองทัพอากาศ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าด้วยความร่วมมือด้านโครงการผลิตแพทย์ร่วม โดยมี พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ สุทธิพงศ์  วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนาม ณ ห้องรับรองพิเศษ 1 กองบัญชาการกองทัพอากาศ

@@@…… สำหรับบันทึกความเข้าใจระหว่างกองทัพอากาศ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าด้วยความร่วมมือด้านโครงการผลิตแพทย์ร่วม นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และประสานความเข้าใจด้านการผลิตแพทย์ร่วม ระหว่างกรมแพทย์ทหารอากาศ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งด้านการดำเนินการพัฒนาการเรียนการสอน การประเมินผล รวมไปถึงการพัฒนาด้านความรู้สายวิชาชีพเวชกรรม และการวิจัยทางคลินิก 

@@@……พ.อ.อาจอง บัวชุม ผบ.นพค.21 สนภ.2 นทพ. ให้การต้อนรับ คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนวรรณสนุสรณ์ ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ในโอกาสขอเข้าเยี่ยมชมศึกษาดูกิจกรรมภายในศูนย์การเรียนรู้เศษฐกิจพอเพียงของหน่วย จำนวน 40 คน โดยหน่วยได้จัดวิทยากรถ่ายทอดความรู้ และนำชมกิจกรรมภายในศูนย์การเรียนรู้แก่คณะครูนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีโอกาส ได้รับประสบการณ์และความรู้ที่ได้ ไปเป็นแนวทางในการศึกษาและเลือกประกอบอาชีพตามศักยภาพของตนเอง ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เทิดไท้ มหาราชัน นพค.21 สนภ.2 นทพ. หมู่ที่ 5 บ้านโคกหนองแวง ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี

………………..

คอลัมน์ “Military Key” 

โดย “รหัสมอร์ส”