“เอ็ม โบกปูน” ส่องศักดิ์ ส่งแสง พ่อโหดฆ่าโบกปูน “น้องโมเดล” ลูกสาววัย 2 ขวบ เปิดประวัติสุดผงะ มีเมีย 4 ลูก 10 โดยเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ลงมือกับลูกที่เกิดจากเมียคนสุดท้าย วัย 1-10 เดือนอีก 4 คน ห่อทิ้งตามจุดต่างๆ เจ้าตัวอ้างป่วยทางจิต
“กำนันนก” คนดังจ.นครปฐม เขย่าวงการสีกากี เมื่อเกิดเหตุการณ์คนสนิทซักอาวุธปืนกระหน่ำยิ่ง “สารวัตรทางหลวง” เสียชีวิตอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวหน้ากฎหมาย กลางงานเลี้ยงในบ้านกำนัน ต่อหน้าต่อตาตำรวจระดับผกก. สารวัตร รองสารวัตร รวมถึงตำรวจชั้นประทวน
“แอม ไซชาไนด์” ฆาตกรต่อเนื่อง อดีตภรรยานายตำรวจจ.ราชบุรี ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุวางยาพิษล้างหนี้ ชิงทรัพย์นับสิบคน นับเป็นหตุสะเทือนขวัญสังคมไทย
ทั้ง 3 คดีดังสะท้อนถึงสังคมได้หลากหลายมุม เป็นความฟอนเฟะที่รอวันชะล้างให้โลกใบนี้ในประเทศไทยงดงามขึ้น
คดี “เอ็ม โบกปูน” และ คดี “แอม ไซยาไนด์” ผู้ก่อเหตุอาจยกเหตุ ป่วยทางจิต ยังไม่นับรวม “คดียิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหนองบัวลำภู”
ควรมีองค์กรอย่าง กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ถอดบทเรียนถึงรากเหง้าที่ฝั่งเข้าไปจิตใจของ “มนุษย์” ถึงกล้าลงมือก่อเหตุขึ้นสะเทือนขวัญ
เรื่องนี้ต้องตีเหล็กตอนร้อน คงปล่อยให้กลไกรัฐปกติ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพม. ดำเนินการ คงช้าเป็นเรือเกลือ
ขอเสนอทางออกที่ดีและรวดเร็ว ควรเป็นบทบาทของสภาผู้แทนราษฎร โดย สส.เสนอญัตติ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาเรื่องนี้
เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคม อย่างน้อยจะได้วางแผนหล่อหลอมเด็กๆ ให้เติบใหญ่มีคุณภาพ และในอนาคตไม่ควรเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในสังคม
เช่นเดียวกับ คดี “กำนันนก” รากเหง้าของปัญหาพอคลำทางถูก ทั้ง ส่วยรถบรรทุก-ฮั้วประมูลงาน สุดท้ายทุกฝ่ายโยนไปที่ ปฏิรูปตำรวจ ถึงสะสาง วงจรอุบาทว์คอร์รัปชัน นี้ได้
แต่เมื่อหันไปดูสภาผู้แทนราษฎร แบ่ง 35 เก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) ถึงกับหดหู่ ดูตามรูปเกม สส.พรรคร่วมรัฐบาลรูมกินโต๊ะฝ่ายต้าน
แม้พรรคก้าวไกลได้ 11 เก้าอี้ประธานกมธ. แทบไม่ได้เนื้อไม่ได้หนังที่เป็นอาวุธแห่งการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ตรงกันข้ามพรรคร่วมรัฐบาล จับติ้วแม่นเหมือนล็อกตรงกับเก้าอี้รัฐมนตรีที่คนในพรรคไปนั่งบริหาร
เช่น พรรคเพื่อไทยได้ 10 คณะ กมธ.ป.ป.ช. มีอำนาจและหน้าที่ร้ายแรงเหลือคณานับ ตรวจสอบได้ทุกกระทรวงทบวงกรม ยังได้โบนัสเป็นกมธ.คมนาคม, กมธ.ท่องเที่ยว, กมธ.สาธารณสุข, กมธ.ต่างประเทศ, กมธ.ดีอี, กมธ.คลัง
เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทย คว้า กมธ.ศึกษา, กมธ.กระจายอำนาจ, กมธ.ปกครอง, กมธ.แรงงาน, กมธ.ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย
ประเทศไทยคงไม่มีโอกาสได้ เห็น กมธ.ป.ป.ช. ที่มีสส.พรรคเพื่อไทยนั่งเป็นประธานกมธ. เอกซเรย์กระทรวงที่คนของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีแน่นอน
นับเป็นบทพิสูจน์นโยบายปราบคอร์รัปชันของรัฐบาล ส่อล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นบริหารประเทศ
และเป็น บทพิสูจน์ 500 สส.เร่งรัดตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาถอดบทเรียนซุปเปอร์วิกฤติสังคม
…………………….
คอลัมน์ :ไขกุญแจ/ไขแหลก
โดย…“ราษฎรเต็มขั้น”
