วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlightกองทัพไทยแจงขั้นตอนรับกำลังพลกลับจากซูดาน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กองทัพไทยแจงขั้นตอนรับกำลังพลกลับจากซูดาน

กองทัพไทย แจงขั้นตอนการรับกำลังของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 1 ชุด 2 กลับสู่มาตุภูมิ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19)

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย พล.อ.ไตรภพ ศรีพันธุ์วงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะผู้บั๙าการเหตุการณ์ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง เรืออากาศโท สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง พล.ท. ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก พล.ต. ณัฐพล แสงจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ กรมยุทธการทหาร นายสันต์ อรุณรักษ์ติชัย นักการทูตชำนาญการพิเศษ กระทรวงการต่างประเทศ นายแพทย์ ชลทรัพย์ แชมาร์ EOC ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง และ พ.ต.อ.จันทร์ชัย แดงประเสริฐ ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานกรุงเทพฯ บก.ตม.2 ร่วมกันแถลงข่าวการรับกำลังพลกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทย/เซาห์ซูดาน ผลัดที่ 1 ชุดที่ 2 หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพร่วมกับสหประชาชาติในภารกิจ UNMISS สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน

กองทัพไทยได้จัดส่งกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ไปสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2561 ก่อนจะเกิดการอุบัติใหม่ของโรคโควิด-19 โดยมีภารกิจสนับสนุนทางการช่าง เช่น การสร้างถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น และช่วยเหลือการฟื้นฟูประเทศเซาท์ซูดาน ที่ตกอยู่ภายใต้สงครามกลางเมืองมายาวนาน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามพันธกรณีของประเทศที่มีต่อสหประชาชาติในฐานะรัฐสมาชิก การสนับสนุนกำลังฯ ในครั้งนี้ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ต.ค.2560 เพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ และเป็นการดำรงบทบาทของไทยในเวทีโลก เป็นการสร้างเกียรติภูมิของชาติ ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีประเทศสมาชิกที่ส่งกำลังเข้าร่วมในภารกิจรวม 72 ประเทศ รวมทั้งประเทศสมาชิกอาเซียน 

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มรุนแรงขึ้นในห้วงเดือนมี.ค.2563 เป็นปัจจัยให้รัฐบาลเซาท์ซูดานและสหประชาชาติได้กำหนดมาตรการระงับการเดินทางเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว ประกอบกับข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน เช่น มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่ยังไม่มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ความไม่พร้อมรับกำลังชุดใหม่ของประเทศเซาท์ซูดาน ส่งผลให้กองร้อยทหารช่างของไทยต้องชะลอการผลัดเปลี่ยนกำลังมาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องปฏิบัติภารกิจภายใต้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดมาเป็นเวลากว่า 1 ปี 9 เดือน ซึ่งกองทัพไทยได้เตรียมความพร้อมในการผลัดเปลี่ยนกำลังอย่างต่อเนื่อง และเห็นชอบร่วมกับสหประชาชาติและเซาท์ซูดานในการผลัดเปลี่ยนกำลังในห้วงเดือนก.ย. – ต.ค.2563 

โดยดำเนินการดังนี้- กองร้อยทหารช่างฯ ผลัดที่ 2 ซึ่งจะเดินทางไปผลัดเปลี่ยนกำลัง เข้ารับการกักกัน ณ สถานที่กักกันตัวในพื้นที่จังหวัด (LQ) เป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และทำการตรวจยืนยันการปลอดเชื้อโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการ 72 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย สำหรับการเคลื่อนย้ายใช้อากาศยานเช่าเหมาลำจำนวน 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินแรกจำนวน 180 นาย ออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2563 และเข้ารับการกักกันตัวในค่ายทหารไทย ณ เมืองจูบา อีก 14 วัน


ตามมาตรการที่สหประชาชาติกำหนด ปัจจุบันได้เสร็จสิ้นการกักกัน และเริ่มปฏิบัติภารกิจแล้ว เที่ยวบินที่ 2 จำนวน 90 นาย ออกเดินทางจากประเทศไทยในวันที่ 11 ต.ค.2563  ซึ่งกำลังพลได้ดำเนินการกักกันตน ณ สถานที่กักกันของกองทัพไทย ณ โรงแรม นนทบุรีพาเลซ เสร็จสิ้นแล้ว และได้รับการตรวจยืนยันการปลอดเชื้อก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ผลการตรวจ ไม่พบผู้ติดเชื้อ

กองร้อยทหารช่าง ผลัดที่ 1 ที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนเดินทางออกจากเซาท์ซูดาน ได้เข้ารับการกักกัน 14 วัน เคลื่อนย้ายโดยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ จำนวน 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินที่ 1 จำนวน 180 นาย เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2563 และเข้ารับการกักกัน ณ สถานที่กักกันของรัฐ (SQ) ผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อ ๓๒ นาย และได้ส่งต่อไปยัง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อรักษาตามขั้นตอนแล้ว สำหรับเที่ยวบินที่ 2 จำนวน 76 นาย ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2563 เมื่อเดินทางถึงได้เข้ารับการคัดกรองขาเข้าและรับการกักกัน ณ สถานที่กักกันของรัฐ รวมทั้งปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานของกรมควบคุมโรค 

จากบทเรียนที่มีกำลังพลผลัดที่ 1 ได้รับเชื้อจากในพื้นที่ กองทัพไทยจึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อกำลังพล ผลัดที่ 2 ดังนี้ ก่อนเดินทางออกจากเซาท์ซูดาน ได้เพิ่มความเข้มงวดในมาตรการการกักกันภายในค่าย 14 วัน โดยเพิ่มความเข้มงวดในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างการเดินทาง ใช้เที่ยวบินเช่าเหมาลำซึ่งไม่ปะปนกับใคร ไม่มีการแวะพักระหว่างทาง โดยกำลังพลทุกนายต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ลดความแออัดในเที่ยวบินเหลือ 76 นาย และให้เว้นที่นั่งระหว่างกัน


เมื่อถึงประเทศไทย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดกรอง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองขาเข้า และส่งตัวเข้ารับการกักกัน ณ สถานที่กักกันของรัฐ และตรวจหาการติดเชื้อในทันทีเพื่อคัดแยกกำลังพลที่พบการติดเชื้อไปยังพื้นที่ควบคุมของโรงพยาบาลในทันที เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ

หลังเสร็จสิ้นการกักกัน กำลังพลที่ครบกำหนดการกักกันและไม่พบการติดเชื้อตลอดการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกและคอ (SWAB) ตามห้วงที่กำหนด จะถูกส่งตัวกลับหน่วยต้นสังกัดเพื่อรับการกักกันภายในสถานที่กักกันเฉพาะองค์กร (OQ) อีก 14 วัน กองทัพไทยขอยืนยันว่าได้บังคับใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในระดับสูงที่สุดเท่าที่จะเคยมีการปฏิบัติมา เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อไปสู่กำลังพลของไทยที่ปฏิบัติภารกิจในเซาท์ซูดานให้ได้มากที่สุด และแม้จะมีกำลังพลที่อาจติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ กองทัพไทยจะควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศไทยได้อย่างเด็ดขาด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img