“ตู่-จตุพร” ดับเครื่องชน “ทักษิณ” แขวะ “จม.น้อย” อาจโดนคนร้องไปที่ กกต. ยืนยันตระกูลบูรณปกรณ์ซื่อสัตย์กับตระกูลชินวัตรมายาวนาน ไม่ได้ทรยศพรรคเพื่อไทย แต่ไม่น่าจะทำกับเขาแบบนี้ เชื่อถ้าขอร้องแต่แรก “บุญเลิศ” คงไม่ลงสมัคร ยอมรับเรื่องวุ่นๆ ที่เกิดเพราะคนๆ เดียวคือ “เจ๊แดง”
สนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ กำลังเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือด เมื่อนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ลงสมัครในนาม “กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม” ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ และนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก๊อง) อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ตระกูล “บูรณุปกรณ์” แนบแน่นกับตระกูล “ชินวัตร” เป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาก็ให้การสนับสนุนทางการเมืองทั้งในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นและระดับประเทศ กระทั่งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ยังออกมาสนับสนุนและช่วยหาเสียงให้กับนายบุญเลิศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงขนาดออก “จดหมายน้อย” มาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่ ประกาศตัวสนับสนุนนายพิชัย หรือ “สว.ก๊อง” อย่างเต็มตัว จึงเป็นที่วิพากษ์กันมากว่า “ทักษิณเลือกข้าง ทิ้งตระกูลบูรณุปกรณ์”
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ถึงกรณีจดหมายน้อยของนายทักษิณ ส่งสัญญาณว่า สว.ก๊องอาจจะแพ้ จึงต้องกระโดดออกมาอุ้มว่า…ความเป็นจริง ตนเห็นนายบุญเลิศมานาน เราเคลื่อนไหวในฐานะคนเสื้อแดงมานาน เขาไม่มีพฤติกรรมทิ้งกระบวนการนี้ แต่โชคร้ายไปติดคุกกันทั้งครอบครัว ขณะอยู่ในเรือนจำ คนของพรรคเพื่อไทยก็ส่งข่าวว่า จะเปลี่ยนตัวเป็นอีกคนหนึ่งในสนาม อบจ. เค้าช้ำตั้งแต่อยู่ในคุก ถูกตั้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ช่วงที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ มีการเลือกตั้ง ก็มีการชวนไปร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติ แต่มิได้หมายความว่าจะไปย้ายขั้ว ประเด็นต่อมา ผู้สมัครภาคอีสานของพลังประชารัฐประกาศตัวมาตลอด แต่ถึงเวลา พรรคเพื่อไทยไปส่งในนาม “เพื่อไทย” ตนถึงบอกว่า นายบุญเลิศไม่ได้ไปพรรคพลังประชารัฐ แต่ไปถ่ายรูป พรรคไหนชวนก็ไป ในฐานะนายก อบจ. ตระกูลนี้ซื่อสัตย์กับตระกูลชินวัตรมายาวนาน
“เชื่อว่าถ้าคุณทักษิณบอกกับคุณบุญเลิศ ว่าไม่ต้องลง ผมเชื่อว่าเค้ายอม แต่นี่ไม่ได้บอก คนในสังคมก็รับรู้ เค้าไม่ได้ทรยศ แต่ในฐานะเจ้าบ้าน พรรคไหนเชิญไปงาน เขาก็ไป”นายจตุพรกล่าวและยอมรับว่า สว.ก๊องมาทางสายเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
เมื่อถามถึงนายทักษิณเขียนจดหมายน้อย “เลือกข้าง” แสดงว่าเรตติ้งไม่ดี ส่อแพ้หรือ นายจตุพร ตอบว่า “นายบุญเลิศเป็นนายก อบจ. 12 ปี นายกเทศบาล 8 ปี รวม 20 ปี เกรงว่าจะมีคนไปร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องจดหมายของทักษิณ พอผมมายืนกับนายบุญเลิศ ก็ผลักไสว่าผมเป็นคนของพลังประชารัฐ ตระกูลบูรณปกรณ์ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ อยู่แบบเรียบง่าย แค่ถูกข้อหาเรื่องเดียว ถ้ากระแสชนะขาด ไม่ต้องมาเหนื่อยยากขนาดนี้ แต่ไม่ควรทำแบบนี้กับคนที่ซื่อสัตย์ เหมือนอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนหนึ่ง ยังไม่ทันพ้นจากตำแหน่ง ก็ถูกยกข้าวของเอามากอง เขาเป็นหัวหน้าพรรคที่ชนะท่วมท้นถล่มทลาย เอาของมาเก็บใส่ลัง แล้วมากองที่หน้าห้อง พอเห็นว่าไม่เอาด้วยแล้ว มาทำแบบนี้ได้อย่างไร นี่ไม่ได้เผาเพื่อไทย เพื่อไทยไม่มีสิทธิ์ในการกระทำที่สวนทางกับความเป็นจริงได้ นายบุญเลิศอยู่ในสถานะที่ยากลำบาก ถ้าผมไม่ไปพูดข้อเท็จจริง เค้าก็ลำบาก เมื่อเจอจดหมายของนายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งเหนื่อยยาก แต่ต้องขอความเป็นธรรม เขาไม่ได้แปรพักตร์ แต่พรรค(เพื่อไทย)แปร”
ถามอีกว่า ขณะนี้นายทักษิณเลือกข้างสว.ก๊อง นายจตุพรเลือกข้างนายบุญเลิศ นายจตุพร กล่าวว่า “ผมยืนกระทั่งจบ สุดท้ายก็จะปกป้องประชาธิปไตย แยกแยะถูกผิด ยังเคารพนายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ข้อเท็จจริงหลายเรื่อง ต้องยอมรับว่า ความจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่อย่างที่ท่านบอก เพื่อไทยอย่ามองว่า คนเห็นต่างต้องเป็นศัตรูกัน ถ้าเป็นศัตรูกับผม ยิ่งต้องต่อสู้”
ถามต่อว่า เรื่องยุ่งๆ เพราะเจ๊แดง ใช่หรือไม่ นายจตุพร ตอบว่า ตั้งคำถามที่เป็นคำตอบอยู่แล้ว คนในพรรครู้เป็นอย่างดี
