วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกNEWS“ภูมิธรรม”เผยมีกระแสข่าวเสียชีวิต12คน รอทางการอิสราเอลยืนยัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ภูมิธรรม”เผยมีกระแสข่าวเสียชีวิต12คน รอทางการอิสราเอลยืนยัน

ภูมิธรรม’นั่งหัวโต๊ะประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน เกาะติดสงครามอิสราเอล เผยมีกระแสข่าวแรงงานไทยเสียชีวิต 10-12 คน รอทางการอิสราเอลยืนยัน เจ็บ 8 ในจำนวนนี้สาหัส 2 ขณะที่ ‘กองทัพอากาศ’จัดเครื่องบิน 6 ลำพร้อมบินตลอด 24 ชม. รอสัญญาณเปิดน่านฟ้า


เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center) พร้อมด้วย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ นายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพอากาศ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือคนไทยในเหตุการณ์ความรุนแรงในประเทศอิสราเอล

โดยนายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์ประสานงานฉุกเฉินฯ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามการเกิดสถานการณ์ที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย เราได้ประชุมหารือกันและเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือคนไทย แรงงานไทย ที่อยู่ในประเทศอิสราเอลทั้งหมด เรามีความห่วงใยในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งนี้รุนแรงถึงขั้นประกาศเป็นสงคราม ประเทศไทย รัฐบาลไทย ยืนอยู่ในจุดยืนสำคัญคือเราเป็นกลาง ในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ เรายอมรับในการดำรงอยู่ของ 2 รัฐ ทั้งรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอล เราอยากเห็นทั้ง 2 ประเทศหยุดความขัดแย้งครั้งนี้ได้ด้วนสันติวิธีด้วยการร่วมมือกันในการเจรจาสันติภาพให้เกิดขึ้น

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรามีความห่วงใยชีวิตของพี่น้องคนไทยไทย ซึ่งเรามีแรงงานไทยอยู่ในประเทศอิสราเอลเกือบ 3 หมื่นคน และส่วนที่อยู่ใกล้ชนวนกาซาที่กำลังเกิดความรุนแรงมีแรงงานไทยอยู่ประมาณ 5,000 คน ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทยเป็นศูนย์กลางในการประสานงานและดูแลคนไทยอยู่ วันนี้ยังออกไปที่ไหนไม่ได้เพราะว่าสถานการณ์ที่รัฐบาลอิสราเอลประกาศฉุกเฉินให้ทุกคนอยู่ในบ้านและไม่ให้เคลื่อนย้ายอะไร แต่เราก็ได้เตรียมความพร้อมต่างๆ ประสานกับจุดต่างๆ ซึ่งเราเตรียมการซ้อมแผนต่างๆ ล่วงหน้าอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทั้งนี้ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงเทลอาวีฟ ได้รายงานสถานการณ์ให้เรารับทราบ วันนี้ศูนย์ประสานงานฉุกเฉินได้ประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกเหล่าทัพ รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคม สภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และอีกหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของเราก็คือชีวิตและความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ที่นั่น เราได้ดำเนินการ ขณะนี้เราได้ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นทางการ 2 ท่าน แต่ว่ามีกระแสข่าวที่มาอาจจะมีมากถึง 10-12 ท่าน ซึ่งอันนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอความชัดเจนจากทางการของอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บในชั้นต้นก็คือ 8 ท่าน ใน 8 ท่านนั้นมี 2 ท่านที่บาดเจ็บสาหัส และอยู่ในความดูแลที่โรงพยาบาลของอิสราเอลแล้ว อีก 6 ท่านบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้เราได้เตรียมการในการที่จะดูแลคนไทยที่อยู่นั่นทั้งหมด โดยกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินไว้ 6 ลำ เป็น A 340 จำนวน 1 ลำ และ C 130 อีก 5 ลำ ทั้งหมดพร้อมเดินทางได้เลย เมื่อมีความชัดเจนในเรื่องการเปิดสนามบิน ” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟรวบรวมรายชื่อคนไทย และติดต่อประสานงานโดยวางจุดต่างๆ ไว้ทั่วอิสราเอล พร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ส่วนการดูแลอื่นๆ ได้ติดต่อไปที่สำนักงานแรงงานจังหวัดอุดรธานีรวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงการพัฒนาสังคมเข้าไปให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าทางรัฐบาลไทยยืนยันให้คำมั่นว่าจะดูแลอย่างเต็มที่ทุกอย่าง ยืนยันว่าขณะนี้ทุกอย่างมีความพร้อมทุกกระทรวงทบวงกรม โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมประเด็นต่างๆ ในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเตรียมการอพยพ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ทุกส่วน

รองนายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องของการอพยพชั้นต้น จะอพยพแรงงานที่อยู่ในเขตที่ไม่ปลอดภัยมาอยู่ในเขตที่ปลอดภัยก่อน และกำลังแสวงหามิตรประเทศที่อยู่รอบข้าง เนื่องจากคนไทยมีอยู่เกือบ 3 หมื่นคน ดังนั้นเราจะจัดคนที่อยู่ในจดที่น่าห่วงใยหรือไม่ปลอดภัยมากที่สุดออกมาจากสถานที่นั้นมาไว้ภายในประเทศอิสราเอลหรือประเทศข้างเคียง โดยได้ประสานงานกับประเทศข้างเคียงอิสราเอลไว้ทั้งหมด ก่อนที่จะอพยพอย่างเป็นทางการกลับมา ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องคำนึงถึงแรงงานต่างๆ ด้วยว่าสมัครใจหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามเราจะพยายามโน้มน้าว ชักจูง ให้ออกมาจากที่ๆ ไม่ปลอดภัยก่อน ส่วนจะเดินทางกลับประเทศหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานในเรื่องวีซ่า พาสปอร์ต และประเทศต่างๆ ที่จะเป็นเส้นทางการบินให้ครบถ้วนรอบด้าน โดยเอกอัครราชทูตไทย จะเป็นศูนย์บัญชาการอยู่ที่กรุงเทลอาวีฟ และศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน กระทรวงการต่างประเทศ ก็จะทำงานทุกวัน โดยนายจักรพงษ์ และ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะอยู่บริหารสถานการณ์ และเราพร้อมที่จะประชุมฉุกเฉินทันทีที่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

เมื่อถามว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่ระบุว่าเพิ่มขึ้นเป็น 10-12 คน เป็นการประเมินหรือเป็นรายงานจากสถานทูต นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ที่ชัดเจนจากทางการของอิสราเอลคือ 2 ท่าน ส่วนที่ว่าอาจจะถึง 10 นั้นเราได้รับฟังจากนายจ้าง ซึ่งก็ยังไม่ยืนยันในขณะนี้ เนื่องจากนายจ้างก็เอาคนของเขาออกมาได้ แล้วยังหายไปอีก 10 คน ซึ่งอาจจะยังสับสนอยู่ ขอให้เป็นทางการก่อนแล้วเราจะแจ้งให้ทุกท่านทราบ เพราะเราต้องดำเนินการในเรื่องไปหาญาติและให้การดูแลซึ่งกระทรวงแรงงานได้เตรียมความพร้อมในเรื่องสิทธิการได้รับความคุ้มครองฉุกเฉินต่างๆ ไว้แล้ว

เมื่อถามถึงตัวเลขผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มี 11 คน ซึ่งขณะนี้การติดต่อสื่อสารในอิสราเอลค่อนข้างลำบาก บางส่วนตัดขาด บางส่วนเราก็ยังติดต่อทางโทรศัพท์ได้ และออกจากบ้านไม่ได้ ทุกคนต้องอยู่ในที่ตั้งเพราะเขาประกาศห้ามเคลื่อนย้ายคนออกจากพื้นที่ แต่เราจะพยายามอย่างถึงที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เราได้วางจุดประสานไว้แล้ว และขณะนี้กองทัพอากาศก็พร้อมบินตลอด 24 ชม. ทุกอย่างพร้อมหมด โดยจุดของแรงงานไทยที่มีปัญหาคือบริเวณฉนวนกาซาทางด้านใต้ แต่ตอนนี้ก็ประสานงานกันได้หมด อาจจะมีบางจุดบางส่วนที่ยังรวบรวมกันไม่ได้ ก็จะเร่งประสานให้ได้ทันหมดโดยเร็ว

เมื่อถามว่ามีผู้ต้องการแจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทยแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่ว่าส่วนใหญ่ทุกคนรอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง สถานการณ์ก็ยังไม่แน่นอน เพียงแต่เราประเมินไว้ว่าหากเลวร้าย เราจะพร้อมรับมือ ไม่ต้องรอให้เหตุการณ์เกิดแล้วถึงมาเตรียมการ ขณะนี้เราเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมหมด สัญญาณมาเมื่อไร ก็สามารถดำเนินการและปฏิบัติการได้ทันที

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งนี้เราประสานกับทางปาเลสไตน์ และทั้ง 2 ฝ่ายว่าเราสนับสนุนให้เกิดการเจรจาโดยสันติ และพยายามให้ดูแลชีวิตคนไทยด้วย เพราะว่าแรงงานไทยก็คือผู้ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่นั่นโดยโดยที่ไมได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆ และ จะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ชีวิตคนไทยปลอดภัย ซึ่งทางการอิสราเอลก็ยืนยันและให้ความมั่นใจว่าจะดูแลความปลอดภัยของคนไทยให้ดีที่สุด

“ฝากถึงพี่น้องคนไทยในต่างจังหวัด ในภาคอีสานและภาคอื่นๆ ทั้งหมด การที่มีพี่น้องคนไทยอยู่ที่นั่นเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและสนใจที่สุด เราจะดูแลลูกหลานของท่านอย่างดีที่สุด ทุกอย่างที่เรามี ศักยภาพที่เรามีเราจะใช้ทุกอย่างในการรักษาชีวิตและปลอดภัยของคนไทยทุกคน มีนักศึกษาอยู่ประมาณ 8-9 คนเราก็จะดูแลด้วย ” นายภูมิธรรมกล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img