“สุวัจน์” ลั่นพรรคชาติพัฒนา ต้องกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม พร้อมลุยสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า และจะทำการเมืองแบบไม่ขัดแย้งใคร
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.64 ห้องประชุมลำปลายมาศ ชั้น 4 โรงแรมแคนทารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2564 ขึ้นมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมีคณะผู้บริหารพรรคร่วมประชุมพร้อมหน้า และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ประมาณ 300 คน
นายสุวัจน์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายของ กกต.ที่จะให้เลือกคณะกรรมการเลือกตั้งของพรรค เพื่อที่จะไปจัดหาผู้ที่จะเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สมัยหน้า ซึ่งเหลือเวลาอีก 1 ปีกว่า ก็คาดว่าน่าจะมีการจัดเลือกตั้ง ส.ส.ขึ้นทั่วประเทศ โดยพรรคชาติพัฒนาก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมาก จากผลกระทบของการระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ดังนั้นตนเองจึงได้พูดกับสมาชิกพรรคทุกคนว่า ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ให้โฟกัสไปในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมีการเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งใหม่ ที่ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และ ส.ส.เขต จากเดิม 500 คน เปลี่ยนเป็น 400 คน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จาก 150 คน เป็น 100 คน ทำให้ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งต้องเปลี่ยน ดังนั้นวันนี้จึงกำชับให้ผู้บริหารพรรคและสมาชิกพรรค ช่วยกันจัดทำนโยบายเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน
โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจในภาคอีสาน จำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่มาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร พรรคชาติพัฒนาเคยได้ ส.ส.ถึง 60 คน ในยุคของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค การเมืองเขาวัดกันด้วยเสียงในรัฐสภา ถ้าเสียงน้อยพูดอะไรไปก็ไม่ค่อยได้ยิน ต้องมีเสียงมากพอสมควรจึงจะได้ยิน แต่ตอนนี้พรรคชาติพัฒนามีแค่ 4 เสียงเท่านั้น ถือว่าเป็นพรรคขนาดเล็ก วันนี้พรรคชาติพัฒนาต้องพยายามกลับมาเป็นพรรคขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ให้ได้ เราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีศัตรู ไม่ขัดแย้งกับใคร ดังนั้นพรรคชาติพัฒนาจะทำการเมืองด้วยความไม่ขัดแย้งกับใคร และที่สำคัญ จ.นครราชสีมา ถือว่าเป็นเรือนตายของพรรคชาติพัฒนา ในอดีตเราเคยได้ ส.ส.ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มากถึง 15 คน วันนี้ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อให้พรรคชาติพัฒนาสามารถคัมแบ๊กกลับมายิ่งใหญ่ใน จ.นครราชสีมาเหมือนในอดีตให้ได้
