”พาณิชย์”เผยธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงดาวเด่นปี’65 – คนแห่เปิดกิจการขยายตัวสูงถึง 91% แนะผู้ประกอบการควรปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยเข้าการแข่งขันทั้งด้านเศรษฐกิจและ สังคม ทำให้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงครองตัวเป็นโสด สังคมผู้สูงอายุ และการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น สัตว์จึงกลายมาเป็นเพื่อนเข้ามามีบทบาทสำคัญและมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2563-2565 ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 63 ราย ทุนจดทะเบียน 101.90 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 68 ราย เพิ่มขึ้น 8% ทุน 119.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% ปี 2565 จัดตั้ง 130 ราย เพิ่มขึ้น 91% ทุน 210.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77%
ผลประกอบการธุรกิจ โดยรายได้รวมของธุรกิจ ปี 2562 อยู่ที่ 2,933.51 ล้านบาท กำไร 57.63 ล้านบาท ปี 2563 รายได้รวม 3,512.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% กำไร 46.31 ล้านบาท ลดลง 20% และ ปี 2564 รายได้รวม 4,267.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% กำไร 127.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176%
นายสินิตย์ กล่าวว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565 มีจำนวนธุรกิจดังกล่าว 562 ราย คิดเป็น 0.06% ของธุรกิจทั้งหมด มีมูลค่าทุน 1,359.60 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน 243 ราย คิดเป็น 43.24% รองลงมา คือ ภาคกลาง 130 ราย ภาคตะวันออก 49 ราย ภาคเหนือ 46 ราย ภาคใต้ 45 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30 ราย และ ภาคตะวันตก 19 ราย
ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของคนไทย มีมูลค่าการลงทุน 1,334.93 ล้านบาท คิดเป็น 98.19% ของการลงทุนในธุรกิจทั้งหมด ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ จีน มูลค่า 5.15 ล้านบาทรองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 5.02 ล้านบาท อังกฤษ มูลค่า 3.88 ล้านบาท และอื่นๆ มูลค่า 10.62 ล้านบาท
“การลงทุนในธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับปริมาณการขายอาหารสัตว์และมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยที่เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการขายอาหารสัตว์ตั้งแต่ปี 2560-2564 โตต่อเนื่อง ปี 2564 เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2563 ขณะที่ปี 2565 คาดว่าจะมีปริมาณการขายอาหารสัตว์ในตลาดราว 929 ล้านกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 8% ขณะที่มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงพบว่า ปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 44,592 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าในปี 2569 ตลาดสัตว์เลี้ยงจะมีมูลค่าสูงถึง 66,748 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางการให้บริการโดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจ และพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การให้บริการโดยคำนึงถึงความสะอาด มีมาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถติดตามสัตว์เลี้ยงได้ 24 ชั่วโมง มีบริการที่ครบวงจร และให้ความสำคัญกับการรักษาโรคของสัตว์เลี้ยงทั้งโรคทั่วไปและเฉพาะทาง รวมทั้ง ธุรกิจต้องคำนึงถึงการบริหารต้นทุน และใส่ใจการบริการที่เป็นเลิศเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเกิดความประทับใจ และธุรกิจสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
