ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 13.34 จุด นักลงทุนกังวลสหรัฐเกิดภาวะชัตดาวน์ หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โบรกประเมินแนวต้านแรก 1,540 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,515 จุด แนวรับ 1,490 จุด
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,494.02 จุด ลบ 13.34 จุด หรือ -0.88% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,514.90 จุด ต่ำสุด 1,494.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55,605.03 ล้านบาทว่า
หุ้นไทยปิดร่วงหลุด 1,500 จุด ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับประเทศในฝั่งเอเชียที่ปรับลงในทางเดียวกัน ยกเว้นฝั่งมาเลเซียและฟิลิปปินส์ที่ปรับขึ้น แรงกดดันมาจากประเด็นกังวลสหรัฐฯ อาจเกิด Government Shutdown (การปิดทำการชั่วคราวของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ) หรือการยุติการจ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ เป็นการชั่วคราว หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้
โดยหุ้นกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ ธนาคาร BBL, SCB พลังงาน EA, GULF, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่ม ICT หลักๆ TRUE ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นหลัก ๆคือ โรงพยาบาล BDMS BH กลุ่มส่งออก ITC, TU
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 37.68 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 788.62 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 871.98 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 1,698.29 ล้านบาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- 27 ก.ย. ประชุม กนง. KCS คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25%
- 29 ก.ย. เงินเฟ้อ PCE ส.ค.ของสหรัฐ ตลาดคาด +3.5%y-y จากเดิม +3.3%y-y
- 29 ก.ย. PMI ภาคผลิตและบริการจีน (Caixin สำรวจธุรกิจขนาดเล็ก-กลางมองลุ้นฟื้นตัวได้ หนุนหุ้นเชื่อมโยงจีน
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ประเมินกรอบแนวต้านแรก 1,540 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,515 จุด แนวรับ 1,490 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,023.46 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,676.04 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
SAV มูลค่าการซื้อขาย 2,261.59 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,250.68 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,022.14 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
