วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกNEWSนายกฯมอบนโยบายงบประมาณปี 67 กำชับทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายภายใต้ก.ม.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯมอบนโยบายงบประมาณปี 67 กำชับทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายภายใต้ก.ม.

นายกฯเป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบาย และแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เน้นย้ำขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่าย โดยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย มีความระมัดระวัง อย่าให้เศรษฐกิจสะดุด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้นำเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า ขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มาร่วมประชุมในวันนี้  รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และทุกท่านที่อยู่บนระบบวิดีโอคอล จุดประสงค์ของการประชุมวันนี้ตนขอมอบนโยบายและกรอบแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างที่ทุกท่านทราบดี รัฐบาลปัจจุบัน เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภายในและภายนอกประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนี้ก็ได้เดินหน้าตั้งคณะกรรมการเพื่อเริ่มดำเนินการแล้ว โดยจะดำเนินการทำประชามติ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567  การใช้จ่ายภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และแผนต่าง ๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด  รัฐบาลจะมีเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2567  เป็นวงเงิน 3.48  ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ตนตั้งใจที่จะบริหารจัดการการคลังด้วยความรอบคอบ  โปร่งใส  ตรวจสอบได้และรักษาวินัยและเสถียรภาพทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ในการวางแผนใช้จ่ายงบประมาณปี 67 ขอวางกรอบความสำคัญ 5 ข้อต่อไปนี้ ข้อ 1.ขอให้จัดทำงบและเบิกจ่ายงบประมาณคำนึงถึงกรอบกฎหมายและวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด ขอให้ทุกๆหน่วยงานพิจารณาดูว่าอะไรที่ทำได้ก็ขอให้ดำเนินการทำไปก่อน แต่อย่าลืมเรื่องความถูกต้องตามกระบวนการ

นายกฯ กล่าวต่อ ข้อ 2 ขอให้ทุกหน่วยงานทำงานกันอย่างบูรณาการ วางแผนงบประมาณไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน หลายๆโครงการในอดีตที่เคยทับซ้อนกัน ขออย่าให้เกิดภาพแบบนั้นอีกภายในรัฐบาลนี้  ข้อ 3.ขอให้วางแผนและจัดทำงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของรัฐ และคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง

“การทำแผนงานหรือโครงการ ขอให้ทำตามความจำเป็นเร่งด่วน และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมถึงขอให้ทุกหน่วยงานนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิผล และเพิ่มความโปร่งใสในการทำงาน ทำให้ประชาชนเห็นว่าเงินภาษีของพวกเขา ถูกใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าทุกบาท ทุกสตางค์ ข้อ 4. ผมไม่สนับสนุนการทำงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลให้ประเทศ ประชาชน เพราะจะเป็นการนำภาษีประชาชนไปละลายแม่น้ำซะเปล่าๆ ไม่สนับสนุนการนำงบประมาณไปทำอะไรที่ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีจุดประสงค์ที่จับต้องได้ ไม่มีความชัดเจน ฉะนั้น ขอให้พิจารณาลดแผนงานหรือโครงการต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้การใช้งบประมาณอย่างตรงเป้าหมายและประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ และ ข้อ 5 ขอให้จัดทำแผนการใช้จ่ายโดยพิจารณาให้ครบทุกแหล่งเงินทุน ทั้งเงินนอกงบประมาณ และเงินงบประมาณ” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้งบประมาณปี 67 จะล่าช้า แต่ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่าย โดยอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย มีความระมัดระวัง อย่าให้เศรษฐกิจสะดุด ฉะนั้นในการทำงบประมาณปีนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานพิจารณาประเด็นทั้งกรอบความสำคัญทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ 1.ทำงบประมาณตามนโยบายที่สัญญากับประชาชน 2.ทำอย่างบูรณาการ ลดความซ้ำซ้อน 3.ทำอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาวินัยการเงินการคลัง 4.ทำอย่างมีตัวชี้วัดและเป้าหมาย5.ทำให้ครบทุกแหล่งเงินทุน และยึดวินัยการเงินการคลัง และขอให้จัดส่งให้สำนักงบประมาณภายในวันที่ 6 ต.ค. 2566 ที่จะถึงนี้ ขอให้ทุกท่านวางแผนงบประมาณให้มีสิทธิภาพ เพื่อจะได้ใช้ภาษีของประชาชนทุกบาท ทุกสตางค์อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์ต่อคนไทยทุกคน.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img