วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlightไปต่อไม่ไหว!''เอสเอ็มอี''ส่อแววผิดนัดชำระหนี้พุ่ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ไปต่อไม่ไหว!”เอสเอ็มอี”ส่อแววผิดนัดชำระหนี้พุ่ง

สสว. เผยภาระหนี้สินเอสเอ็มอีไตรมาส 3/66 ขยายตัว 60.3% โดยผู้ประกอบการผิดเงื่อนไขการชำระหนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการเงิน-การลงทุนพุ่ง วอนภาครัฐช่วยหาแนวทางเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้สำรวจผู้ประกอบการ SME ถึงสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของ SME ไตรมาส 3 /66 จำนวน 2,633 ราย พบว่า ขยายตัว 60.3% ส่วนมากเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก (Small) และขนาดกลาง (Medium) โดยเฉพาะสาขาการบริการ ด้านการขนส่งสินค้า ร้านอาหาร การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับ


สำหรับแหล่งกู้ยืมของธุรกิจ SME 66.2 % กู้ยืมมาจากสถาบันการเงิน อีกสัดส่วน 33.8% มาจากแหล่งเงินทุนนอกระบบสถาบันการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (Micro) ในธุรกิจภาคการค้า โดยเฉพาะร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ที่ใช้บริการจากแหล่งนี้และเป็นการกู้ยืมจากเพื่อน ญาติพี่น้องมากที่สุด ตามข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ

จากผลสำรวจ พบว่า ผู้ประกอบการ SME เกือบ 90% กู้ยืมเงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รองลงมา คือ กู้ยืมเพื่อนำมาลงทุน และการชำระหนี้เดิม ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่มีภาระหนี้สินอยู่ในช่วง 50,000 ถึง 500,000 บาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นตามขนาดของธุรกิจ

ผู้ประกอบการ SME 30% ประเมินว่าระยะเวลาสัญญาเงินกู้ที่ได้รับ ยังสั้นเกินไปจึงส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ แต่ก็ยังมี SME อีก 20% ที่มีแผนจะกู้ยืมในอนาคตเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ แม้ผู้ประกอบการ 75% กำลังเผชิญปัญหาด้านการเงินและภาระหนี้สินทั้งการมีสภาพคล่องลดลง เผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่ง ผู้ประกอบการเกือบ 50% ยังสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดสัญญา แต่ SME 38.4 %เริ่มผิดเงื่อนไขการชำระหนี้และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน


สำหรับปัญหาสำคัญมากที่สุดในด้านหนี้สินของ SME คือ อัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เป็นภาระและความเสี่ยงด้านต้นทุนและการลงทุนในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ ประกอบกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลก ปัญหาในด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SME ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง คือ ขั้นตอนการกู้ยุ่งยาก ต้องใช้เอกสารหลักฐานสำคัญจำนวนมาก และอนุมัติล่าช้า ขาดความรู้ในการจัดการบริหารการเงินและหนี้สิน รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้

โดยสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมากที่สุดคือ การลดอัตราดอกเบี้ยหรือการได้รับดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ รวมถึงการลดเงื่อนไขการยื่นขอเพื่อเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อ การมีสถาบันการเงินสำหรับธุรกิจรายเล็กหรือรายย่อยโดยเฉพาะ การขยายระยะเวลาชำระหนี้ เป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img