ททท.เผยเทศกาลตรุษจีนเงินสะพัดกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเที่ยวไทยเฉียด 1 ล้านคน ขณะที่ไทยเที่ยวไทยกว่า 2 ล้านคน-ครั้ง ชี้จีน-ฮ่องกง-ไต้หวันฮิตพักโรงแรมหรู ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 5.8 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ททท.คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวม 34,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับเทศกาลตรุษจีนปี 66 แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 28,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 995,000 คน เพิ่มขึ้น 34% เมื่อดูเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยในช่วงดังกล่าว 177,000 คน เพิ่มขึ้น 358% สร้างรายได้ประมาณ 6,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366%
ส่วนรายได้ตลาดในประเทศ คาดอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 8 – 16 ก.พ.นี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนจาก 3 ตลาด ได้แก่ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน เดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 195,825 คน เพิ่มขึ้น 137% มีรายได้รวม 11,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157% จากเทศกาลตรุษจีนปี 2566 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดี มาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ของรัฐบาลไทย และจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้จากกลุ่มนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนจาก 3 ตลาดดังกล่าว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามามากที่สุดด้วยจำนวน 150,295 คน เพิ่มขึ้น 335% จากเทศกาลตรุษจีนปี 2566 แต่ยังน้อยกว่าปี 2562 ประมาณ 50% ซึ่งเคยเดินทางเข้ามามากถึง 299,466 คน
ส่วนนักท่องเที่ยวฮ่องกง คาดมีจำนวน 22,830 คน ยังน้อยกว่าปี 2566 ที่มีจำนวน 23,822 คน และปี 2562 มีจำนวน 29,154 คน และนักท่องเที่ยวไต้หวัน คาดมีจำนวน 22,700 คน น้อยกว่า 6% เทียบกับจำนวน 24,160 คนเมื่อปี 2566 แต่มากกว่า 11% เทียบกับจำนวน 20,450 คน เมื่อปี 2562
นอกจากนี้ คาดการณ์ด้วยว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวเชื้อสายจีนจาก 3 ตลาด อยู่ที่ 58,236 บาทต่อคนต่อทริป เพิ่มขึ้น 8% จากเทศกาลตรุษจีนปี 2566 และเพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 46,747 บาทต่อคนต่อทริป
สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่จัดการเดินทางด้วยตนเอง และนิยมเข้าพักสถานพักแรมขนาดใหญ่ หรือสถานพักแรมที่มีราคาสูง
