“ชัยณรงค์” เผยยอดขอกู้ “กยศ.” พุ่งเป็นประวัติการณ์ 3.8 หมื่นล้าน หลังผู้ปกครองเจอพิษโควิดกระทบต่อรายได้ พร้อมนัดลูกหนี้ 1.8 แสนรายจ่อถูกฟ้องไกล่เกลี่ย 25-26 ก.พ.นี้
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า การกู้ยืมในปีการศึกษา 2564 มีผู้ขอกู้ยืมแล้วกว่า 38,000 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 40,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จึงให้ลูกหลานเข้ามากู้ยืม กยศ.เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง
สำหรับกรณีที่กระทรวงยุติธรรมจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 โดยเริ่มที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในวันที่ 25-26 ก.พ.ที่ไบเทคบางนา กรุงเทพฯ นั้น กยศ.จะเชิญผู้กู้ยืมทั่วประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะถูกดำเนินคดี ประมาณ 180,000 ราย เข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่ง กยศ.หวังว่าจะมีลูกหนี้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินให้มากที่สุด
สำหรับการไกล่เกลี่ยหนี้สินครั้งนี้ ถือเป็นการไกล่เกลี่ยหนี้ครั้งแรกตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 ซึ่งจะมีแนวทางไกล่เกลี่ยหนี้ดังนี้ ผู้กู้ยืมที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยจะไม่ถูกดำเนินคดี มีส่วนลดเบี้ยปรับ ได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี ที่สำคัญผู้กู้ยืมไม่ต้องเสียค่าทนายความด้วย หากลูกหนี้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ผู้ค้ำประกันจะไม่ถูกฟ้องดำเนินคดีไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การไกล่เกลี่ยหนี้สินตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 เป็นการไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนที่จะถูกฟ้อง ส่วนผู้ที่ถูก กยศ.ฟ้องร้องแล้ว ขณะนี้ กยศ.อยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.กอง ทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่. …) พ.ศ. … ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรวาระแรกแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่. …) พ.ศ. … หากแก้ไขกฎหมายสำเร็จ ผู้ที่ถูกฟ้องสามารถมาแปลงหนี้ใหม่ได้
