วันพุธ, พฤษภาคม 1, 2024
หน้าแรกHighlightEA ประกาศยกระดับการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษครบวงจร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

EA ประกาศยกระดับการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษครบวงจร

“ไทย สมายล์ บัส” เข้าร่วมเป็นบริษัทในกลุ่ม EA ควบรวมรถโดยสารเข้ากับเรือโดยสารยกระดับการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษครบวงจร ภายใต้แนวคิด “Thai Smile as One  ไทยสมายล์รวมใจเป็นหนึ่ง”

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (หรือ “EA” ผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานสะอาดและด้านยานยนต์ไฟฟ้า เปิดเผยว่า   EA มีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะพัฒนาและส่งเสริมการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและ PM2.5 ตลอดจนลดต้นทุนพลังงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเพื่อการพาณิชย์ที่มีการใช้งานสูง เช่น รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก เป็นต้น

โดยล่าสุดเมื่อวันที่  24 พ.ย.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ทำพิธีเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 515 เส้นทาง ศาลายา-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งในวันดังกล่าว บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (หรือ “ไทย สมายล์ บัส”) ยังได้ประกาศผลสำเร็จในการขยายธุรกิจของบริษัทที่สามารถควบรวมกิจการรถโดยสารและเรือโดยสารรวมทั้งสิ้น 21 บริษัท ไว้เป็นกลุ่มเดียวกันภายใต้แนวคิด Thai Smile as One  ไทยสมายล์รวมใจเป็นหนึ่ง เป็นผลให้กลุ่มไทย สมายล์ และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) (หรือ “BYD”) ได้เข้าไปเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ EA ได้มองเห็นศักยภาพของ BYD ซึ่งมีการลงทุนในบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด อันเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นเจ้าของใบอนุญาตให้บริการรถโดยสารประจำทางจากกรมการขนส่งทางบกจำนวนรวมสูงถึง 80 เส้นทาง และกำลังจะลงทุนเพิ่มอีก 6 เส้นทาง โดยมุ่งเน้นให้บริการด้วยรถโดยสารไฟฟ้าเป็นหลัก จึงนับว่ามีวิสัยทัศน์และแนวคิดที่สอดประสานกันกับกลุ่ม EA อย่างลงตัว จึงตัดสินใจนำบริษัทย่อยเข้าลงทุนใน BYD ร้อยละ 23.63 คิดเป็นมูลค่าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 6,997 ล้านบาท และมีการจัดโครงสร้างด้วยการขายกลุ่มธุรกิจให้บริการรถโดยสารในเครือ EA จำนวน 37 เส้นทาง และเรือโดยสาร 3 เส้นทาง ให้แก่ไทย สมายล์ บัส เพื่อให้มีการควบรวมกิจการในคราวเดียวกัน ส่งผลให้กลุ่มไทยสมายล์มีสายการเดินรถในกรุงเทพฯและปริมณฑลกว่า 120 เส้นทาง และเรือโดยสารอีก 3 เส้นทาง

นายสมโภชน์ อาหุนัย

นายสมโภชน์  กล่าวต่อว่า  นับเป็นการสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่เสริมศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้าของกลุ่ม EA ให้ครบวงจรอย่างแท้จริง และยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมั่นคง อีกทั้ง EA ได้ร่วมมือกับ BYD ในโครงการขายคาร์บอนเครดิตกับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมขึ้นอีกในอนาคตได้ ส่งเสริมให้กลุ่ม EA เป็นผู้นำทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจร

ด้าน นางสาวกุลพรภัสร์ งศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ที่จะเดินหน้าลงทุขในกิจการรถโดยสารและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าตามแผนที่วางไว้ โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก BYD ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในรูปเงินให้กู้ยืมถึง 8,550 ล้านบาท และยังได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ทั้งในด้านเทคโนโลยี บุคลากร การวางแผนกลยุทธ์ การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และการสนับสนุนในทุกๆ ด้านที่สอดประสานกันอย่างเป็นระบบ ทำให้ไทย สมายล์ นัสชื่อมั่นว่ จะสามารถขยายการให้บริการแก่ประชาชนเพื่อตอบโจทย์ให้ทันใจต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้ตามแผน ทั้งนี้ ได้ประมาณการไว้ว่าต้องใช้งินลงทุนรวมทั้งสิ้นอีกกว่า 18,000 ล้านบาท และสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับพี่น้องประชาชน มากกว่า 7,500 ตำแหน่งโดยจะเป็นผู้นำในการพลิกโจมกรให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะของกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้เป็นเครือข่ายของระบบให้บริการขนส่งมวลชนด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่ไร้ลพิษและไร้ PM2.5 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และครบวงจรเป็นประเทศแรกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ด้วยการให้บริการเส้นทางเดินรถและเดินเรือจำนวนกว่า 120 เส้นทาง

“อีกทั่งเราได้นำเทคโนโลยีมาใช้ชื่อมต่อการเดินทางและการเก็บค่โดยสารทางบกและทางน้ำเป็นโครงข่ายเดียวกัน (หรือ SingleNetwork) ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกระดับคุณภาพการให้บริการและจัดระบบการควบคุมได้อย่างรัดกุมแบบรวมศูนย์ หรือ (Single Service) และจะนำระบบการคิดค่โดยสรแบบเหมาจ่าย ภายในโครงข่ายของกลุ่มไทยสมายล์ (หรือSingle Price)เพื่อลดภาระของผู้โดยสาร แนวคิด 3-Single นี้ จะนำไปสู่การสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคนต่อไป” นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าว

ขณะที่ปัจจุบัน กลุ่มไทยสมายล์ปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะแล้ว กว่า 70 เส้นทาง หรือกว่า 900 คัน โดยแบ่งเป็น รถโดยสารพลังงานไฟฟ้ 35 เส้นทาง หรือจำนวนรถที่บริกร 612คัน และรถโดยสารสาธารณะเอ็นจีวี 37 เส้นทาง หรือคิดเป็นจำนวนรถที่ให้บริการ 365 คัน เป็นวันที่ปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 515 เส้นทาง ศาลายา – อนุสารีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับและกรสนับสนุนจากผู้โดยสารเป็นอย่างดีดังเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และจากเสียงสะท้อนที่แสดงถึงความพึ่งพอใจในการใช้บริกรรถโดยสารพลังงานไฟฟ้ 100%ของเรา กลุ่มไทยสมายล์จึงมีความยินดีที่จะแจ้งว่า เรามีแผนที่จะเปลี่ยนรถโดยสารทั้งหมด เป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นไป

สำหรับการเดินทางทางน้ำ กลุ่มไทยสมายล์จะให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้ตามลำน้ำเจ้าพระยาจำนวน 3 เส้นทางหรือ 23 ลำ และในอนาคตอันใกล้จะมีเรืออีก 17 ลำ มาให้บริการเพิ่มเติม อันจะส่งเสริมการเชื่อมต่อการเดินทางทั้งทางบก และทางน้ำของผู้โดยสารอย่างไร้รอยต่อ ประหยัดเวลาในการเดินทาง และยังลดภาระค่ครองชีพกด้วยรวมไปถึง บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อม ที่จะนำระบบการชำระค่โดยสารด้วยบัตร HOP มาติดตั้งและเริ่มใช้งานจริง นอกจากจะเป็นการส่งเสริมสังคมไร้เงินสด (CashlessSociety) แล้วยังเป็นการปู่ทางสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีด้นการจ่ายเงิน (Single Price) สำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ในโครงข่ายของไทยสมายล์กรุ๊ปกว่า 120 เส้นทาง

ทั้งนี้ กลุ่มไทยสมายล์จะเป็นผู้นำ ในการพลิกโฉมรถและเรือโดยสาร ในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย เป็นมิตต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งจะทำให้กลุ่มไทยสมายล์สมารถขึ้ทะเบียนแลรับรองปริมาณก๊ซเรือนกระจก หรือคาร์บอนเครดิตที่มีมูลค่าที่จะซื้อขายได้ในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยแลคุณภาพการให้บริการ โดยสารอยู่ในระดับที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ตอบโจทย์ทุกการเดินทางของประชาชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทุกคน อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบริษัทฯ “เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img