วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกNEWS‘สธ.’เฝ้าระวัง 3 กลุ่มเข้าข่ายได้รับ‘สารซีเซียม-137’ ชี้สะสมยาวนานได้ 30 ปี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘สธ.’เฝ้าระวัง 3 กลุ่มเข้าข่ายได้รับ‘สารซีเซียม-137’ ชี้สะสมยาวนานได้ 30 ปี

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขสั่งเฝ้าระวัง 3 กลุ่ม เข้าข่ายได้รับสารซีเซียม-137 ย้ำ อันตรายกับทุกคน สะสมยาวนานได้ 30 ปี แต่ขณะนี้ยังไม่พผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.66 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการติดตามผลกระทบต่อสุขภาพหลังมีท่อบรรจุสารซีเซียม – 137 หายออกจากโรงงาน และพบว่ามีการหลอมไปตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.แล้ว ว่า ขณะนี้ยังต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีการระบุพื้นที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้น ต้องมีการตรวจสุขภาพทั่วไปของพนักงานโรงงานหลอมเหล็กดังกล่าว และตรวจหาสารตกค้างในปัสสาวะ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นสารอันตรายพิเศษทางกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถตรวจได้ ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งมีห้องปฏิบัติการพิเศษเป็นผู้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพื้นที่รอบๆ โรงงาน ประชาชนในอำเภอ และในจังหวัดปราจีนบุรี

ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข จะต้องมีการเฝ้าระวังทางสุขภาพใน 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มผิวหนัง เนื้อเยื่อ อาการจะมีตั้งแต่ตุ่มน้ำใส เนื้อตาย เป็นต้น 2. กลุ่มผู้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และกลุ่ม 3. กลุ่มอื่นๆ ที่มีความเจ็บป่วย เช่น เม็ดเลือดขาวผิดปกติเป็นกลุ่มก้อน เพราะเม็ดเลือดขาวมีคุณสมบัติแตกตัวไว อาจจะส่งผลต่อเส้นผม อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลกระทบทางด้านสุขภาพนับตั้งแต่ที่มีรายงานการสูญหายยังไม่พบผู้ได้รับผลกระทบเข้ารับการรักษา แต่ก็ต้องเฝ้าระวังต่อไป เพราะอาจจะมีคนที่ได้รับผลกระทบน้อยๆ ยังไม่มีอาการอะไรก็ได้

ทั้งนี้หากมีผู้เข้ารับการรักษาต้องแอดมิดในรพ. อาจจะต้องมีการแยกจากผู้ป่วยคนอื่นๆ หากประชาชนมีความรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ สามารถประสานไปที่สถานพยาบาลในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ สารซีเซียม – 137 เป็นสารที่มีครึ่งชีวิตอยู่ที่ 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นในร่างกายของคนหรือสิ่งแวดล้อม จึงมีความสำคัญที่เราต้องมีการตรวจติดตามต่อเนื่อง

“ผลกระทบต่อสุขภาพจากสารซีเซียม – 137 นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ และระยะเวลาที่ได้รับ ดังนั้นเป็นผลกระทบกับทุกคนที่ได้รับสาร ไม่เฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว เด็ก ผู้สูงอายุ คนทั่วไปได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่พบความผิดสังเกต” นพ.โอภาส กล่าว และว่า ส่วนจะต้องติดตามเรื่องสุขภาพประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีการตรวจสอบพบก่อน ทางสธ. เป็นปลายทาง เราจะเน้นเฝ้าระวังใน 3 กลุ่ม.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img