วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกNEWS8 มิ.ย.‘วิโรจน์’หอบหลักฐาน‘ส่วยสติ๊กเกอร์’ ยื่นให้‘จตช.-รก.ผบก.ทล.’สืบสวนสอบสวน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

8 มิ.ย.‘วิโรจน์’หอบหลักฐาน‘ส่วยสติ๊กเกอร์’ ยื่นให้‘จตช.-รก.ผบก.ทล.’สืบสวนสอบสวน

“วิโรจน์” จ่อนำหลักฐานยื่น “จตช.-รก.ผบก.ทล.” 8 มิ.ย.นี้ ปม “ส่วยสติ๊กเกอร์” เชื่อมือ “ผู้การฯจรูญเกียรติ” ประวัติตรงฉิน มั่นใจหลักฐานมัดตัวคนทำผิดได้ เตรียมสีงคายกฎหมายทันสมัย

วันที่ 5 มิ.ย.2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบส่วยสติ๊กเกอร์ร่วมกับสมาพันธ์การขนส่งทางบก ว่า หลังจากได้ประชุมร่วมกันในสัปดาห์ที่แล้ว ตนจะนำเบาะแสที่ได้จากสมาพันธ์ฯ รวมทั้งหลักฐานที่ได้จากพลเมืองดี จะนำไปให้พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รก.ผบก.ทล.) จะนำไปให้คราวเดียวกันเลย จะได้ประหยัดเวลา คิดว่าตรงนี้เป็นเบาะแสสำคัญ ส่วนหลักฐานมัดแน่นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน ในการไล่เรียงตรวจสอบอีกที หากเป็นหลักฐานมัดแน่นไปที่คนใด เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

เมื่อถามว่า มีการนัดวันเข้าพบหรือยัง นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นวันพฤหัสบดี ที่ 8 มิ.ย. เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนจะไปพร้อมกับสมาพันธ์ฯ โดยมีข้อมูล 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของสมาพันธ์การขนส่งทางบก อีกส่วนเป็นข้อมูลจากพลเมืองดีที่มอบให้ตน ที่ผ่านมาหลายครั้งการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สื่อสารแบบผิดหลักการ ที่บอกว่าถ้าประชาชนคนใดมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็จะไปดำเนินการจัดการไม่ละเว้น แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ภาคประชาชนให้ได้ก็แค่น่าจะเป็นเบาะแสสำคัญในการชี้เบาะแส ส่วนการหาหลักฐานในการดำเนินคดี ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน

เมื่อถามว่า เป็นการตรวจสอบตำรวจด้วยกันเอง มั่นใจหรือไม่ว่ากระบวนการจะมีความโปร่งใส นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังมีความมั่นใจ เพราะตำรวจที่เข้ามาทำเป็นจเรตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่สอดส่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วยกัน

“ท่านผู้การจรูญเกียรติ ประวัติท่านก็ตรงฉิน ยังมีความไว้วางใจ แต่ที่ผมบอกว่าการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจไป ณ จุดนี้ ทางเราเองก็ยังไม่มีอำนาจบริหาร หรืออำนาจหน้าที่เข้าไปสั่งการ คงต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ”นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่คงต้องทำหลังจากนี้ คงจะต้องดึงเอากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎกระทรวง ประกาศต่างๆ รวมถึงพ.ร.บ.การขนส่งทางบก เข้ามาพิจารณาในรายละเอียดว่ามีกฎหมายอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหน้างานจริง และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถประชาชน นอกจากนี้ยังต้องดูไปถึงเรื่องโทษและวิธีบังคับใช้กฎหมายด้วย ว่าเป็นการให้ดุลยพินิจหรืออำนาจกับเจ้าหน้าที่ที่ล้นเกินไปหรือไม่

เมื่อถามว่าพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในคณะทำงาน แต่การแก้ปัญหาคอรัปชั่นก็อยู่ใน MOU มีความสำคัญอยู่แล้ว คงต้องมีการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย รวมถึงอีกหลายเรื่อง เช่น การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเรียกรับผลประโยชน์ในขั้นตอนการจดทะเบียนและต่อทะเบียน การขออนุญาตใช้รถบรรทุก คงต้องนำเข้าหารือในรายละเอียด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img