วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 2, 2024
หน้าแรกHighlight“อนุทิน”แนะสธ.รับมือ“สังคมผู้สูงวัย” ชู 1 ตำบล 1 บ้านพักคนชรา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อนุทิน”แนะสธ.รับมือ“สังคมผู้สูงวัย” ชู 1 ตำบล 1 บ้านพักคนชรา

“อนุทิน” ฝากข้าราชการประจำวางแนวทางดูแลสูงวัยทุกมติ อย่ารอนโยบายพรรคการเมือง เชื่อหากดีพอ ใครเป็นรมว.สธ.ต้องดันต่อแน่นอน ส่วนตัวพร้อมช่วยในสภาฯ สุดห่วงครอบครัวไทยความสัมพันธ์ลดลง สธ.ต้องดูแล อย่าปล่อยเป็นค่านิยมเห็นแก่ตัว

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.66 ที่อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดงาน ประชุมวิชาการเวชศาสตร์และวิทยาการด้านผู้สูงอายุ มหกรรมสุขภาพผู้สูงอายุครั้งที่ 4 ตอนหนึ่งว่า สธ.ประกาศให้ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทยเนื่องจากเราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ปัจจุบันเรามีประชากรผู้สูงอายุร้อยละ 20 ของประชากรหรือประมาณ 13.5 ล้านคน ซึ่งจากการดูงานที่ญี่ปุ่นพบว่า ไม่ใช่แค่สุขภาพเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาสังคม ปัญหาเรื่องการขาดรายได้ ปัญหาการขาดความรู้สึกคุณค่าในตัวเองน้อยลง ดังนั้นเราตั้งเป้าไม่ให้เกิดสภาพเช่นนี้ในไทย ในฐานะฝ่ายการเมืองก็จะพยายามนำเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในนโยบาย ทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน ไม่ได้รอนโยบายพรรคการเมืองต่างๆ ที่บางครั้งอาจจะไม่ได้เข้ามากำกับสธ. ก็อาจจะไม่สะดวก ดังนั้นฝ่ายประจำต้องกำหนดภารกิจหลักแล้วนำเสนอฝ่ายนโยบาย รับรองว่าใครมาเป็นรัฐมนตรีที่เข้ามากำกับดูแล สธ.ถ้าได้รับการเสนอที่ดีจากภาคปฏิบัติ เชื่อว่าต้องรีบทำให้โครงสร้างการดูแลสังคมผู้สูงอายุในไทยเกิดขึ้น

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หากมีสิ่งที่ผลักดันได้ ตนเองในฐานะที่อยู่ในสภาก็จะเร่งผลักดันให้เกิดกฎหมายสวัสดิการผู้สูงวัย เกิดโครงการที่พักอาศัยเพิ่มมากขึ้นเพื่อผู้สูงอายุ สมัยก่อนมี 1 ตำบล 1 รพ.สต. 1 ตำบล 1 ทุนแพทย์ สุดท้ายก็ต้องมี 1 ตำบล 1 บ้านพักผู้สูงอายุอย่างนี้เป็นต้น ก็ต้องทำให้ได้ ต้องออกแบบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เอื้อต่อการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ ต้องปรับปรุงกฎหมายแรงงาน ปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ทบทวนโครงสร้างภาษีที่เราต้องพยากรณ์รายได้ที่จะหายไปจากสังคมผู้สูงอายุ

“ที่ห่วงคือ ยุคใหม่มีการเอาปู่ย่าตายายไปอยู่บ้านพักคนชรา พ่อแม่ทำงาน ลูกอยู่กับพี่เลี้ยง อยู่กับเพื่อน อยู่ด้วยตัวเอง ก็เลยเป็นปัญหาหลายๆ อย่างที่เราเห็นกันในวันนี้ เรื่องของความผูกพันมีการบอกว่า เราเกิดมาไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร พ่อแม่สนุกกันเองเราเลยเกิดมา สธ.ต้องดูตรงนี้ อย่าให้สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมของประเทศเราในอนาคต ถ้าคนคิดแบบนี้ตลอด ประเทศก็ไปไม่ได้ ทุกคนจะเป็นสังคมแห่งการเห็นแก่ตัว สังคมคิดแต่ตัวเอง ไม่มีการเอื้ออาทร ปันน้ำใจ ก็จะเป็นประเทศที่อยู่ไปใครเก่งก็อยู่ได้ ใครไม่เก่งก็ถูกเหยียบย่ำ” นายอนุทิน กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img