วันศุกร์, พฤษภาคม 3, 2024
หน้าแรกHighlightดีเดย์วันนี้ใช้“บัตรคนจน”ต้องสแกนหน้า พร้อมกดรหัส PIN Code 6 หลักทุกครั้ง!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ดีเดย์วันนี้ใช้“บัตรคนจน”ต้องสแกนหน้า พร้อมกดรหัส PIN Code 6 หลักทุกครั้ง!

กรมบัญชีกลางกำหนดให้ผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงิน ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า พร้อมกดรหัสคู่บัตร หรือ PIN Code 6 หลัก ทุกครั้งในการชำระค่าสินค้า-บริการ เริ่มวันนี้วันแรก

กรมบัญชีกลาง ดีเดย์วันนี้ (11 มี.ค.67) สำหรับประชาชนที่มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้สิทธิที่ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่รับชำระค่าสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดรหัสคู่บัตร PIN 6 หลัก และให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการสแกนใบหน้าทุกครั้ง ยกเว้น กลุ่มผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่เดินทางไปยืนยันตัวตนเองไม่ได้ เป็นต้น และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้า ไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC)

โดยปัจจุบันมีร้านค้าและผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินแล้วกว่า 100,000 ร้านค้า

วิธีใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับถุงเงิน
• ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ แสดงบัตรประจำตัวประชาชนกดรหัสคู่บัตร PIN 6 หลัก ร่วมกับ
• การสแกนใบหน้าทุกครั้ง เมื่อใช้สิทธิที่ร้านค้าถุงเงิน
• ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
• ก๊าซหุงต้ม
• ภาคขนส่ง

ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อไปใช้สิทธิที่ร้านค้าถุงเงินต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดรหัสคู่บัตร PIN 6 หลัก และให้ร้านค้าสแกนใบหน้าทุกครั้งยกเว้น กลุ่มผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้าไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน

3 ขั้นตอนในการใช้สิทธิที่ร้านค้าถุงเงิน

แสดงบัตรประจำตัว

1.ผู้ได้รับสิทธิ กดรหัสคู่บัตร PIN 6

2.ให้ร้านค้าสแกนใบหน้า

3.อย่าลืม
• ถอดแว่น หมวกและหน้ากากอนามัย
• ลืมตาให้กว้าง

สำหรับกรณีที่รหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ถูกล็อก ให้ดำเนินการ ดังนี้

(1) หากผู้ใช้สิทธิยังจำรหัสเดิมได้ สามารถติดต่อขอปลดล็อกได้ด้วยตนเองผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ Welfare Call Center 0-2109-2345 หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์) ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น.

(2) กรณีที่ต้องการเปลี่ยนรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก สามารถดำเนินการด้วยตนเองผ่านตู้ ATM บมจ.ธนาคารกรุงไทย (เครื่อง ATM สีเทาที่มีปุ่ม “ทำรายการด้วยบัตรประจำตัวประชาชน”)

(3) กรณีจำรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ไม่ได้ ให้ติดต่อที่สาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เพื่อทำการยืนยันตัวตนใหม่ พร้อมกำหนดรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 ในวันเวลาทำการ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

-วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ม.ค.-26 ก.พ.2567 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 มี.ค.2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)

-วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2567)

สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) แล้ว ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 จะได้รับการโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้

1.บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือ

2.กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2567)

วันที่ 20 มีนาคม 2567

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ม.ค.-26 ก.พ.2567 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท))
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือนประกอบด้วย
    • บขส.
    • รถไฟ
    • ขสมก.
    • รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน/สีม่วง) BTS (สายสีเขียว/สีทอง/สีเหลือง/สีชมพู) ARL (Airport Rail Link/สายสีแดง)
    • รถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 11-13 มีนาคม 2567

  • เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน (มกราคม-มีนาคม 2567)
    วันที่ 11 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดก่อนวันที่ 1 มกราคม 2495
    วันที่ 12 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2495-31 ธันวาคม 2501
    วันที่ 13 มีนาคม 2567 สำหรับผู้มีสิทธิที่เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2501-29 กุมภาพันธ์ 2507
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img