“ศบค.” เปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ถึงกับอึ้ง พบคนไทยลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายแล้ว 1.5 หมื่นคน วอน “ปชช.” ช่วยกันแจ้งเบาะแส เพื่อให้ฝ่ายความมั่นคงทำงานง่ายขึ้น เผยช่องทางการแพร่ระบาดช่วงนี้ พบการติดเชื้อใน “ตลาด-ชุมชน-ขนส่ง” เพิ่มมากขึ้น
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อทั่วโลก ในต่างประเทศ รายใหม่ 783,013 ราย สะสม 158,313,826 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 13,022 ราย สะสม 3,296,623 ราย โดยประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุดคือ อินเดีย 409,300 ราย สะสม 22,295,911 ราย เสียชีวิตใหม่ 4,133 ราย ส่วนสถานการณ์ประเพื่อนบ้านไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น รายใหม่ 6,054 ราย, อินโดนีเซีย 6,130 ราย, ฟิลิปปินส์ 6,979 ราย, มาเลเซีย 4,519 ราย, สิงคโปร์ 20 ราย, กัมพูชา 538 ราย, เวียดนาม 93 รายและลาว 28 ราย
โดยประเทศไทยอยู่อันดับที่ 99 ของโลก มีผู้ป่วยสะสม 54,512 ราย วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,101 ราย เสียชีวิต 17 ราย หายป่วยกลับบ้าน 2,186 ราย ตอนนี้มีจำนวนคนรักษาหายมากกว่าจำนวนผู้ป่วยรายวัน ทำให้ยอดรวมสะสมของคนหายป่วยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีคนที่ต้องเข้ารับการรักษาในรพ. 29,371 ราย อาการหนัก 1,142 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ 394 ราย ขณะนี้เราพบความเสี่ยงในการติดเชื้อ สถานบันเทิง ปาร์ตี้ คอนเสิร์ต ร้านอาหาร ในกรุงเทพฯนั้น ตัวเลขเหลือหลักหน่วย แต่พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในตลาด ชุมชน และขนส่ง
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 2,101 ราย พบใน กทม.และปริมณฑล 1,457 ราย อีก 71 จังหวัดพบ 629 ราย ทั้งนี้มาจากระบบเฝ้าระวังในรพ. 1,674 ราย, ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 412 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 15 รายคือ อินเดีย 2 ราย, ปาปัวนิวกินี 1 ราย, ซูดาน 1 ราย, สิงคโปร์ 3 ราย, อินโดนีเซีย 1 ราย, เยอรมนี 2 ราย และอีก 5 ราย มาจากเมียนมา 1 ราย, มาเลเซีย 2 ราย, กัมพูชา 2 ราย ทั้งหมดเป็นคนไทย ลอบเข้ามาทางพรมแดนธรรมชาติ เป็นเรื่องที่กังวลใจ เพราะมีทั้งมีอาการและไม่มีอาการ ต้องใช้พื้นที่ใกล้เคียงคือ จ.สระแก้วที่ใกล้กับกัมพูชา, จ.ปัตตานีใกล้กับมาเลเซีย และอ.แม่สอดใกล้เมียนมา ซึ่งต้องขอบคุณประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันจัดการเรื่องนี้
“จากการเฝ้าระวังคนลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย วันนี้พบข้ามมาจากฝั่งลาว 4 ราย, เมียนมา 15 ราย, กัมพูชา 4 ราย, มาจากทางใต้ 1 ราย ส่วนจำนวนสะสมของเดือนเม.ย. พบลักลอบเข้ามา 32 ราย ติดชายแดน 30 ราย ส่วนยอดรวมสะสม 4 เดือน มีคนลักลอบเข้ามาแล้ว 15,378 ราย มาจากเมียนมา 6,072 ราย, ลาว 882 ราย, กัมพูชา 5,114 ราย แสดงว่ายังมีปัญหาด้านนี้ตลอดแนวชายแดน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำฝ่ายมั่นคง ต้องทำหน้าที่แข็งขัน แต่ช่องทางธรรมชาติ ถ้าคนไทยตรงนั้นรับทราบข้อมูล ช่วยแจ้งเบาะแสด้วย ก็จะทำให้ฝ่ายมั่นคงทำงานง่ายขึ้น”นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 17 ราย แบ่งเป็นชาย 8 ราย หญิง 9 ราย อยู่ในกรุงเทพฯ 8 ราย, สมุทรปราการ 3 ราย, ปทุมธานี-สมุทรสาคร-สุราษฎร์ธานี-สงขลา-แพร่-ชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย ความเสี่ยงคือมีโรคประจำตัว ความดันสูง เบาหวาน หัวใจ ไขมันในเลือดสูง อ้วน ลมชัก ไตเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง ติดเตียง ส่วนปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อคือ การติดเชื้อครอบครัว เพื่อนร่วมงาน สัมผัสที่ช่วยยืนยัน ไปสถานที่แออัด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า วันนี้มีรายงานบุคลากรทางการแพทย์ เป็นทันตแพทย์ เสียชีวิต 1 ราย มีโรคประจำตัวคือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทั้งนี้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข (EOC) มีความเป็นห่วงบุคลากร ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับโรค หากป่วย 1 คน มีผู้สัมผัสก็ต้องกักตัวจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-7 พ.ค. มีจำนวน 512 ราย อายุเฉลี่ย 33.37 ปี เป็นผู้หญิงมากกว่าชาย มีอาการ 285 คน หรือ 56% ไม่มีอาการ 181 ราย หรือ 35% ทั้งนี้พบว่าเป็นพยาบาล/ผู้ช่วยพยาบาล 34% ไม่ระบุ 27% อื่นๆ 18% แพทย์ 10% ทันตแพทย์ 5% นักศึกษาแพทย์/พยาบาล/เภสัชกร 2% โดยพบในรพ.รัฐ 65% รพ.เอกชน 29% ASQ 2% คลินิก 2% ศูนย์ฟื้นฟูศูนย์การแพทย์ 1%
ส่วนกรณีการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์ พบใน 57 จังหวัด กทม. 137 ราย, ตรัง 47 ราย, ชลบุรี 34 ราย, นครปฐม 25 ราย, ขอนแก่น 18 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 17 ราย, ปทุมธานี-สงขลา-อุดรธานี จังหวัดละ 16 ราย และสุราษฎร์ธานี 14 ราย ส่วนปัจจัยเสี่ยงจากการสัมผัสกับผู้ป่วยขณะทำงาน 202 ราย, สัมผัสเพื่อนร่วมงานในรพ.ที่ป่วย 63 ราย, ติดเชื้อภายนอก รพ. 106 ราย, อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 141 ราย ทั้งนี้รพ.บางแห่งเป็นรพ.เล็ก ต้องปิดทั้งรพ. เพราะบางครั้งเจอกับผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้แจ้งประวัติความเสี่ยง ทำให้แพทย์พยาบาลต้องกักตัวด้วย ดังนั้นขอให้บุคลากรทางการแพทย์ดูแลสุขภาพให้ดี และเราพยายามให้ได้รับวัคซีน ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ หรือลดโอกาสการติดเชื้อได้ด้วย สำหรับรายงานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-8 พ.ค. มีการฉีดแล้ว 1,743,720 โดส แบ่งเป็นการฉีดเข็มแรก 1,273,666 ราย, ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว 470,054 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเอกสารสรุปสถานการณ์โรคโควิดทั่วโลก พบว่า 5 ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อมากที่สุดในโลกคือ 1.สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสม 33,454,581 ราย เป็นรายใหม่ 35,755 ราย-เสียชีวิตสะสม 595,588 ราย 2.อินเดีย ติดเชื้อสะสม 22,295,911 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 409,300 ราย-เสียชีวิตสะสม 242,398 ราย 3.บราซิล ติดเชื้อสะสม 15,150,628 ราย รายใหม่ 63,268 ราย-เสียชีวิตสะสม 421,484 ราย 4.ฝรั่งเศส ติดเชื้อสะสม 5,767,959 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 20,745 ราย-เสียชีวิตสะสม 106,277 ราย และ 5.ตุรกี ติดเชื้อสะสม 5,016,141 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 18,052 ราย-เสียชีวิตสะสม 42,746 ราย
