วันศุกร์, พฤษภาคม 10, 2024
หน้าแรกNEWS"ก้าวไกล"เปิดแคมเปญ"รีเซ็ตประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่"
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ก้าวไกล”เปิดแคมเปญ”รีเซ็ตประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่”

“ก้าวไกล” เปิดแคมเปญ “รีเซ็ตประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” เร่งล่า 5 หมื่นชื่อ จ่อชง “นายกฯ” จัดลงประชามติพร้อมเลือกตั้งปีหน้า ดักทางครม.-ส.ว. เคยรับหลักการให้มีส.ส.ร.มาแล้ว ตั้งเป้าส่งส.ส.ครบทุกเขต ลั่นอยากเป็นพรรคใหญ่ เตรียมเปิดแคมเปญ 9 ก.ย.

วันที่ 8 ก.ย. 65 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่า มติรัฐสภามีมติไม่รับหลักการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ที่เสนอโดยภาคประชาชน เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเป็นพิเศษ ถึงแม้รัฐธรรมนูญ ปี60 มีปัญหาเยอะมาก แต่ข้อเสนอปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นข้อเรียกร้องพื้นฐานที่สุด และเป็นมาตราที่ขัดแย้งต่อหลักการประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ในเมื่อไม่สามารถตัดอำนาจ ส.ว. ทันการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทางพรรคก้าวไกลจึงเรียกร้องให้ ส.ว. ไม่นำตัวเองเข้ามาเป็นผู้ชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้ง แต่ควรเคารพและยึดตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนที่จะถูกสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง

นายพิธา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลประกาศต่อประชาชนมาตลอด คือการแก้ไขวิกฤตทางการเมืองครั้งนี้ ต้องไม่ใช่แค่ “ปะผุ” หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราแล้วจะเพียงพอ แต่ต้องให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ที่ผ่านมาการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การร่างฉบับใหม่ผ่านช่องทางรัฐสภา เจอทางตันทุกครั้ง ซึ่งทางพรรคก้าวไกลเห็นว่าต้องหา “ไพ่ใบใหม่” ที่ยังไม่มีใครเคยใช้ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญชื่อ “RESET ประเทศไทย เลือกตั้งใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่” ที่จะอาศัยช่องทางตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ 2564 มาตรา 9 (5) โดยใช้เสียงของประชาชนอย่างน้อย 50,000 คน ร่วมลงชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้มีการจัดทำประชามติโดยจะเริ่มรณรงค์ทันทีจนกว่าได้รายชื่อครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด เพื่อประหยัดงบประมาณ และเพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่คือการเปลี่ยนกติกาประเทศ เราจะเสนอให้จัดประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะต้องเกิดขึ้นไม่เกินเดือนพ.ค. 2566

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มั่นใจว่าวิธีการนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และไม่ควรมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ถูกคัดค้าน เพราะเป็นหนทางที่จะนำพาประเทศออกจากวิกฤตทางการเมือง นำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้จริง โดยไม่ต้องง้อเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. ซึ่งเป็นแนวทางที่รัฐบาลปฏิเสธยาก เพราะการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. เป็นสิ่งที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ว. เคยสนับสนุน และการจัดประชามติก็เป็นไปตามความเห็นของส.ส.รัฐบาล และ ส.ว. ที่เคยอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความว่าต้องจัดทำประชามติก่อนเสนอเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้าสู่สภาในขั้นรับหลักการ และเป็นการทวงถามและเรียกความรับผิดชอบโดยตรงจาก นายกฯ และ ครม. ว่าจริงใจแค่ไหนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากที่เคยประกาศว่าเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อเป็นการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนโดยตรง เพราะหากมีการจัดทำประชามติในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง และประชาชนเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะมาจากขั้วไหน ก็ต้องดำเนินการตามคำสั่งของประชาชนที่แสดงออกผ่านผลประชามติ อีกทั้งยังช่วยประหยัดงบประมาณและทรัพยากรของประเทศ เพราะจัดการเลือกตั้งและจัดประชามติในวันเดียวกันได้เลย

“พรรคก้าวไกลต้องขอแรงสนับสนุนจากประชาชน ขอให้อย่าเพิ่งถอดใจ มาลงชื่อกับเรา เพื่อส่งแรงกดดันไปยังรัฐบาลให้จัดประชามติ และคืนประเทศให้ประชาชน เพื่อให้ปลายทางในปีหน้า เราจะมีความหวังได้ว่ามีสิ่งที่ดีกว่ารอเราอยู่ คือคนไทยจะได้เลือกตั้งใหม่ ได้เริ่มนับหนึ่งสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนฉบับใหม่ และมีโอกาสร่วมสร้างอนาคตใหม่ของประเทศไทยอีกครั้ง โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงชื่อได้ที่ https://www.resetthailand.org ทั้งนี้คาดว่าจะมีการลงชื่อครบไม่เกิน 1 เดือนซึ่งวันนี้เปิดเป็นวันแรกมีประชาชนลงชื่อกว่า 3,000 คนแล้ว” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ยังกล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงว่า พรรคก้าวไกลมีความพร้อมมาโดยตลอด และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ได้มีการเตรียมความพร้อมมาหนึ่งปีกว่า เพื่อให้ครบ 400 เขต ซึ่งใน 1 เดือนที่ผ่านมาได้มีแคมเปญปฏิรูปพรรคชื่อว่า “ก้าวไกล Next” โดยมีการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด และในวันที่ 9 ก.ย. ก็จะมีแคมเปญเลือกตั้งที่จะมีการพูดถึงหลักการและอุดมการณ์ รวมถึงผลสำเร็จของพรรคก้าวไกลตลอด 4 ปีที่ผ่านมาในสภา และจะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลตั้งเป้าจะได้ส.ส.กี่ที่นั่ง นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวตั้งเป้าว่าอยากจะได้มากกว่าครั้งที่แล้ว ตัวเลขไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่อยากจะทำให้ดีที่สุด ในขณะเดียวกันอยากทำให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคระดับประเทศจริงๆ นั้นคือต้องมีส.ส.เขตทุกภูมิภาค และไม่ต้องการที่จะเป็นพรรคที่เน้นแค่ภาคใดภาคหนึ่ง หรือเน้นส.ส.ที่มาจากบัญชีรายชื่อเพียงอย่างเดียว เราจึงต้องเตรียมตัวทั้งในเรื่องวิสัยทัศน์ นโยบายและการทำงาน พร้อมกับการเป็นพรรคขนาดใหญ่ในอนาคต

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img