วันเสาร์, พฤษภาคม 25, 2024
หน้าแรกHighlight“ตู่-นกเขา”เตือนอย่าเพิ่งตายใจได้เลือกตั้งบัตร 2 ใบ-หาร 100 เชื่อเป็นแผน 3 ป.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ตู่-นกเขา”เตือนอย่าเพิ่งตายใจได้เลือกตั้งบัตร 2 ใบ-หาร 100 เชื่อเป็นแผน 3 ป.

จตุพร-นิติธร” ชี้อย่าเพิ่งตายใจได้เลือกตั้งบัตร 2 ใบหาร 100 ประเมินสิ่งผิดปกติการเมือง ระบุ“ศาล รธน.-ปรับ ครม.-ปปช.ชี้มูล” เป็นแพคเกตทั้งดี-ร้ายในวันเดียวกัน เชื่อ 3 ป.คนกุมอำนาจ กำหนดเกมการเมืองจ่อแผนสอง


เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน โดย อรุโณทัย ศิริบุตร ดำเนินรายการ ระบุถึงผลวินิจฉัยของศาล รธน. กรณีพระราชบัญญัติประกอบ รธน. (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ไม่ขัด รธน. ว่า เป็นความใจดีของผู้คุมเกม กำหนดกติกาการเมือง หากชะล่าใจจะตกเป็นเหยื่อการเมืองในแผนสองและสาม ซึ่งจะตามมาในระยะอันใกล้ก่อนตัดสินใจยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่

ทั้งนี้ ผลการตัดสินของศาล รธน.ในวันนี้ (30 พ.ย.) มีผลวินิฉัย 2 ข้อกล่าวหา คือ มีมติเอกฉันท์ชี้ว่า พรป.เลือกตั้งตราขึ้นโดยชอบ รธน. มาตรา 132 และมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียงระบุว่า ไม่ขัด รธน. มาตรา 93 และ 94
ดังนั้น การวินิจฉัยของ ศาล รธน. จะส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในอนาคตต้องใช้กติกาลงคะแนนเสียงด้วยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือบัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน (หารด้วย 100 เพื่อคำนวณ ส.ส.พึงมีของแต่ละพรรคในระบบบัญชีรายชื่อ) โดยกติกาเช่นนี้ พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกอย่างถล่มทลายมาแล้วเมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไปปี 2544 และ 2548 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอนาคตคาดกันว่า พรรคเพื่อไทย ในสายอำนาจของทักษิณ ชินวัตร จะได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง ถึงขั้นประกาศแลนด์สไลด์ได้รับเลือกเข้าสภาไม่น้อยกว่า 250 เสียง

นายนิติธร กล่าวว่า หลังจากศาล รธน.ชี้ขาดแล้ว ขั้นตอนจากนี้ศาลจะส่งคำวินิจฉัยให้ประธานสภารับทราบ แล้วถูกส่งต่อมาถึง ครม. ถ้าไม่มีผู้ร้องใหม่เพิ่มอีก ก็เข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และ รอประกาศใช้กฎหมายเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม จากนี้สิ่งที่ต้องจับตาคือ จะมีการปรับ ครม. อีกครั้งหรือไม่ หรือมีการยุบพรรคหรือไม่ เพราะเมื่อเอากติกาเลือกตั้งเป็นตัวตั้งแล้ว เท่ากับทำให้พรรคการเมืองกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง จึงเห็นปรากฎการณ์เคลื่อนย้ายบุคคลออกพรรค เข้าพรรคมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนพรรคเล็กมีแนวโน้มปรับตัวและขยับตัวมากขึ้น ยิ่ง พลังประชารัฐ (พปชร.) และ รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รวมถึงพรรคใหม่ต้องปรับตัวให้มากขึ้นด้วย เนื่องจากกลไกกติกานี้จะถูกบีบให้ก้าวเดินทางการเมืองและการเลือกตั้ง

พร้อมมั่นใจว่า สิ่งที่จะเห็นอีกครั้งคือ การปรับ ครม.อีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งในวันเดียวกันนี้ (30 พ.ย.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กำลังพิจารณาการทุจริตของนักการเมืองในเรื่องขายมันสำปะหลังเส้น และข้าวจีทูจี ซึ่งต้องติดตามผลการชี้มูลความผิดจะพัวพันกับนักการเมืองคนใดในพรรคใดและอยู่ฝ่ายไหน ซึ่งจะส่อถึงแนวโน้มสถานการณ์การเมืองข้างหน้าได้อย่างน่าสนใจ

“โดยหลัก ๆ การชี้มูลของ ปปช. จะเป็นการตัดกำลังหรือเสริมกำลัง เพื่ออ้างเอาประโยชน์ประชาชน แล้วยังจะเป็นการสร้างความชอบธรรม โปรโมทผลงานรัฐบาล จากนั้นจะมีโครงการประชารัฐให้ประชาชนอีกอย่างน้อย 3 โครงการ และพื้นที่สื่อจะถูกยึดครองด้วยการเคลื่อนไหวของ รทสช. กับ พปชร. และไม่มีช่องว่างให้พรรคอื่นสื่อสาร”

นายนิติธร กล่าวว่า การที่ออกมาแบบนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ทำอะไรไม่ได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งมั่นทำให้ได้ จึงให้ประชาชนตัดสินเลือกเอาระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กับทักษิณ ยิ่งการปรับ ครม.ล่าสุด 3 ตำแหน่ง นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุนทร ปานแสงทอง กลุ่มการเมืองปากน้ำ พปชร. เป็น รมช.เกษตรและสหรกรณ์ และให้นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.ปชป. เป็น รมช.มหาดไทย แต่ที่สำคัญคือ การให้นายธนกร เป็น รมต.สำนักนายกฯ สะท้อนถึงเป้าหมายในการคุมพื้นที่สื่อมากขึ้น

“โอกาสที่เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าไม่มีโอกาส เพราะภายใต้การกำนดเกมของ 3 ป. แม้จะปล่อยให้ใช้บัตร 2 ใบก็ตาม นอกจากนี้จะมีการล็อกคอธุรกิจสีเทามากขึ้นทั้งธุรกิจน้ำมันเถื่อนพัวพันกลุ่มจีน อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐจะถูกลากโยงให้เสียชื่อในกรณีบ่อน ยาเสพติด และการท่องเที่ยว ดังนั้น ขณะนี้ คนคุมเกมต้องการให้เกิดความสับสน ยังไม่ให้เกิดการตัดสินใจ เพียงแค่ให้รับรู้ว่า ดีหรือไม่ดี ต้องการให้ความมัวหมองเปรอะเปื้อนนักการเมืองกันไปหมดเท่านั้น”

นายจตุพร เชื่อเช่นกันว่า แม้ยกแรกผ่าน พรป.เลือกตั้งแล้วก็ตาม แต่เกมการเมืองยังไม่จบสิ้น ตนประเมินว่าจะมีข่าวร้ายในวันนี้จากการประชุมของ ปปช.ช่วงบ่าย (30 พ.ย.) แม้จะบอกข่าวดีในเรื่องศาลวินิจฉัยกับ ปรับ ครม. แต่การประชุมของ ปปช.จะมีผลข่าวใหญ่หรือข่าวร้ายออกมาในท่ามกลางเสียงดีใจได้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องติดตามต่อไป การปรับ ครม.ให้นายธนกร มาเป็น รมต.จะมีผลกับความสัมพันธ์สื่ออย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นการโฆษณาชวนเชื่อจากนี้ไปจะเป็นระบบมากขึ้น ยิ่งการวินิจฉัยของ ปปช.จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง อีกทั้งจากนี้จะมีการกดดันนักการเมืองแรงขึ้น เวลาครบวาระเหลืออีก 3 เดือนเศษ โดยคาดการยุบสภาจะเกิดขึ่นก่อนครบหนึ่งวัน และจากนี้ไปจะเห็นการออกแบบรวมกลุ่มนักการเมืองของฝ่ายอำนาจ 3 ป.

“เมื่อเขา (ประยุทธ์และ 3 ป.) ตัดสินใจเดินหน้า 400 เขต 100 หาร แสดงว่า คิดแผนสองเอาไว้แล้ว จึงควรติดตาม เนื่องไม่ใช่บังเอิญที่ 3 เรื่องสำคัญ คือ ปปช.ประชุม ศาล รธน.วินิจฉัย และปรับ ครม.จะมาอยู่ในวันเดียวกันได้ นอกจากมีแผนสองเตรียมไว้ โดยมุ่งหวังให้ ปปช. ตีแผ่ผลชี้มูลของ ปปช.ทั้งเรื่องมันสำปะหลัง ขายข้าวจีทูจี และอาจมีแผลสามลากไปถึงยุบพรรคในอนาคตด้วย” นายจตุพรกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img